ปลัดกทม.เร่งเยียวยาจิตใจผู้อยู่ในเหตุการณ์ เด็กนักเรียนถูกทำร้าย

29 มกราคม 2567, 14:10น.


          กรณีเหตุนักเรียนถูกทำร้ายร่างกาย ณ โรงเรียนย่านพัฒนาการ 26 พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น เด็กนักเรียนที่ก่อเหตุเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 2 แต่อยู่คนละห้อง สาเหตุของการก่อเหตุในวันนี้ คาดว่าเด็กนักเรียนที่ก่อเหตุโดนกลั่นแกล้งอย่างต่อเนื่องมา 2 สัปดาห์ จึงมีความคับแค้นใจ



          อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างทวนสอบหาข้อเท็จจริงที่แน่ชัด สำหรับการประเมินจากคุณครูผู้สอน คุณครูได้ให้ความเห็นว่าเด็กนักเรียนผู้ก่อเหตุเป็นเด็กสมาธิสั้น ไม่นิ่ง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญไปสอบสวนที่ สน.คลองตัน พร้อมกับผู้ปกครอง เพื่อตรวจสอบว่ามีพฤติกรรมเป็นเด็กพิเศษหรือไม่ เนื่องจากต้องมีหลักฐานหรือใบรับรองแพทย์ในการรับรองความพิเศษ ด้านเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้ายได้นำส่งโรงพยาบาลวิภารามเพื่อให้การช่วยเหลือชีวิต แต่ต่อมาได้รับรายงานว่าเสียชีวิตแล้ว



          เบื้องต้น ปลัดกรุงเทพมหานครย้ำ ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของนักเรียนและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยได้ส่งนักจิตวิทยาให้การเยียวยาในเบื้องต้น เนื่องจากอาจเกิดความเครียดซึ่งส่งผลกระทบทั้งร่างกายและจิตใจได้ ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียดังกล่าว และจะเร่งเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสีย และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจะต้องมีการทวนสอบสาเหตุที่แน่ชัดในการก่อเหตุ ตรวจสอบว่าเด็กนำอาวุธมาจากไหน และต้องวางมาตรการด้านความปลอดภัยให้รัดกุมเข้มข้นมากขึ้นต่อไป



          ด้านนายภาณุมาศ สุขอัมพร ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงมาตรการระยะยาวว่า กรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างการดำเนินการฝึกอบรมครูสังกัดกรุงเทพมหานครในทุกโรงเรียนให้เป็นครูเด็กพิเศษ เพื่อให้ครูกทม.สามารถมองออก คัดกรองได้ และสามารถดูแลเด็กได้อย่างถูกต้องเหมาะสม โดยการดำเนินการฝึกอบรมนี้จะแล้วเสร็จช่วงกลางปีถึงปลายปีนี้





          ด้านนายชัชขาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ ระบุว่า จากหลักฐานที่เรามี เด็กนักเรียนผู้ก่อเหตุไม่ใช่เป็นเด็กพิเศษ ไม่ได้เข้าชั้นเรียนเด็กพิเศษ ส่วนที่บอกว่าเขาเป็นเด็กพิเศษอาจจะเป็นการสังเกต เรื่องนี้ต้องระวังเพราะเรามีเด็กพิเศษอยู่ในโรงเรียนกทม.หลายคน จะกลายเป็นว่า ทุกคนกลัวเด็กพิเศษไปหมด เด็กพิเศษมีหลายรูปแบบอย่าเอาเรื่องนี้เป็นประเด็น รอเรื่องการสืบสวนให้ชัดเจนก่อนว่าปัญหาเป็นอย่างไร รวมถึงเรื่องการบูลลี่ด้วย 



         สิ่งที่ผู้ปกครองให้ความเห็นที่น่าสนใจ บอกว่า จริงๆแล้วไม่อยากให้เด็กแต่งชุดไปรเวท เพราะว่าเด็กที่มาโรงเรียนไม่สามารถแยกคนเกเรที่อยู่นอกโรงเรียน กับเด็กที่แต่งตัวโรงเรียนได้ ซึ่งอาจจะไม่ใช่มิติเรื่องสิทธิภาพของเด็กแต่เป็นเรื่องบริบทโดยรอบและเรื่องความปลอดภัยของเด็ก ซึ่งต้องประเมินอีกครั้ง



          ที่สำคัญคือ ความร่วมมือกันระหว่างครูกับผู้ปกครอง ถ้าผู้ปกครองเป็นเนื้อเดียวกับโรงเรียน มีความร่วมมือกับเขต กับตำรวจน่าจะแก้ได้อย่างดีขึ้น ไม่ใช่ว่าต่างคนต่างแก้ กทม.เองก็ต้องรับผิดชอบเรื่องกายภาพ ไฟฟ้าส่องสว่าง ทางเดิน กล้อง CCTV ให้มีความพร้อม เขตต้องลงพื้นที่ที่มีการมั่วสุมนอกโรงเรียน





#ทำร้ายในโรงเรียน



 

ข่าวทั้งหมด

X