*สภาพภูมิอากาศแปรปรวน ส่งกระทบต่อ สหรัฐอเมริกามากขึ้น*

รายงานฉบับใหม่ของทำเนียบขาวสหรัฐอเมริกา ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ มีผลต่อการเงิน ระบบนิเวศ และสุขภาพของประชาชนอย่างมีนัยสำคัญทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา โดยในรายงานฉบับที่ 3 เกี่ยวกับการประเมินสภาพภูมิอากาศ ระบุว่า จำนวนครั้งที่เกิดสภาพอากาศรุนแรงมีมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดช่วง 50 ปีที่ผ่านมา  เมื่อระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ปริมาณฝนที่มากขึ้น ตลอดจนอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น ต่างสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งยังมีแนวโน้มที่จะสร้างความเสียหายมากขึ้นในช่วง 10 ปีหลัง

รายงานทั้ง 3 ฉบับของคณะกรรมการว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ หรือ ไอพีซีซี เป็นการย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเกิดขึ้นจริง และมนุษย์เป็นผู้ทำให้เกิดขึ้น

โดยในช่วงระหว่างปี 2501-2555 ปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 71 ในนิวอิงแลนด์ และตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่ฝั่งตะวันตกแห้งแล้งลง ซึ่ง ศจ.แกรี่ โยเฮ ผู้ทำวิจัย เปิดเผยว่า การที่สภาพอากาศขาดความสมดุล มีผลต่อการเกษตร การผลิตอาหารเพื่อเลี้ยงประชากร โดยยกตัวอย่างเท็กซัสและโอกลาโฮมา ในปี 2554 ที่มีอากาศร้อนจัดต่อเนื่องทั้งกลางวันกลางคืน การเกิดไฟป่ารุนแรงทางฝั่งตะวันตก ขณะที่ดร.ดรูว์ ฮาร์เวลล์ จากมหาวิทยาลัยคอร์เนล เปิดเผยว่ามีฝนกรดเกิดขึ้นในเขตมหาสมุทรแปซิฟิค ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์และการทำประมงทางทะเล   

เหล่านักวิทยาศาตร์เตือนว่า การลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกยังไม่เพียงพอยังไม่เพียงพอที่จะช่วยให้เราสามารถหลีกเลี่ยงความเสียหายที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดการลงมือทำอย่างจริงจัง และสร้างความเปลี่ยนแปลง จากที่เมื่อปืที่แล้วผู้นำสหรัฐ เสนอกฎหมายใหม่เพื่อให้โรงไฟฟ้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่การออกกฎหมายฉบับนี้ติดขัดในชั้นการพิจารณาของสภาคองเกรส

...ทีมข่าวต่างประเทศ...