*มติศาลรธน.เอกฉันท์ ชี้ ยิ่งลักษณ์ +รมต.9คนพ้นสภาพนายกฯ-รมต.*

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ 9:0ให้สถานภาพของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ส่วนคณะรัฐมนตรี ยังคงปฎิบัติหน้าที่ ต่อไปจนกกว่าจะมีครม.ชุดใหม่ จะเข้ารับหน้าที่  จากการโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี พ้นตำแหน่ง เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เนื่องจากมีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่า การโยกย้ายเป็นไปในลักษณะเร่งรีบ ใช้เวลาเพียง 4 วัน เพื่อต้องการให้ตำแหน่ง เลขาฯสมช.ว่างลงเพื่อโอนย้าย พลตำรวจเอกวิเชียร์ พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ในขณะนั้น มาเป็นเลขาฯสมช. เพื่อให้ตำแหน่ง ผบ.ตร.ว่างลงเพื่อโยกย้ายบุคคลในเครือญาติมาตำแหน่งคือพลตำรวจเอก เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์  นอกจากนั้นในหนังสือโอนย้าย มีพิรุธ สะท้อนถึงการปกปิดความจริง ที่มีความขัดแย้งกันอยู่ ขณะที่  น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี ในฐานะ หัวหน้ารัฐบาล มีส่วนเกี่ยวข้องในการโยกย้าย หลังนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ดังนั้น จึงเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่ง โดยมีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่สุจริต ไม่ชอบด้วยหลักนิติธรรม ขัดต่อการแถลงนโยบายด้านความมั่นคง ที่ได้แถลงต่อรัฐสภา และเป็นการบริหารงานที่แทรกแซงและก้าวก่ายการแต่งตั้งโยกย้าย ขาดคุณธรรม และจริยธรรม  นอกจากนั้น ศาลรธน. ยังมีมติให้ คณะรัฐมนตรี ที่ร่วมพิจารณาโยกย้าย คือ ครม. ยิ่งลักษณ์ 1 พ้นสภาพความเป็น รัฐมนตรีไปด้วย 9 คน ประกอบด้วย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน  นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรม.คลัง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ นายปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นรองนายกฯ  พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กห. นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ  นายสันติ พร้อมพัฒน์. รมต.ประจำสำนักนายกฯ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพเป็นรมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ เป็นรมช.เกษตร ส่วนรัฐมนตรี ที่เหลือให้ดำรงตำแหน่งรักษาการต่อไป  

สำหรับคดีนี้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน สว. ได้ขอให้ศาลพิจารณาว่า สถานภาพความเป็นรัฐมนตรีของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 182 (7) ประกอบมาตรา 268 หรือไม่จากกรณีการโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย