เรือรบสหรัฐ เทียบท่าเกาหลีใต้เตรียมซ้อมรบ สกัดความร่วมมือรัสเซียกับเกาหลีเหนือ

          ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส ธีโอดอร์ รูสเวลต์(USS Theodore Roosevelt)ของกองทัพเรือสหรัฐฯที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ พร้อมลูกเรือ 5,000 นาย และบรรทุกเครื่องบินรบกว่า 60 ลำ รวมถึงเครื่องบินขับไล่รุ่นเอฟ/เอ-18 ซูเปอร์ฮอร์เน็ท(F/A-18 Super Hornet)แล่นมาถึงเกาหลีใต้ พร้อมเข้าจอดที่ท่าเรือเมืองปูซานเมื่อวานนี้ (23 มิ.ย.67) ก่อนซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่นใกล้คาบสมุทรเกาหลี ภายใต้รหัสซ้อมรบ คือ Freedom Edge ในฤดูร้อนนี้ 

          การซ้อมรบดังกล่าวเป็นไปตามข้อตกลงที่รัฐมนตรีกลาโหมจากสหรัฐฯ เกาหลีใต้และญี่ปุ่นทำไว้ระหว่างการประชุมความมั่นคง แชงกรีล่า ไดอะล็อกในสิงคโปร์ในเดือนมิ.ย.67 หรือก่อนการเยือนกรุงเปียงยางของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียเมื่อสัปดาห์ก่อน นับเป็นการแสดงแสนยานุภาพทางทหารล่าสุดของสหรัฐฯ ซึ่งมุ่งมั่นจะปกป้องเกาหลีใต้ตามข้อตกลงความมั่นคงทวิภาคีที่ทำไว้กับเกาหลีใต้ แต่ทั้งสหรัฐฯ หรือเกาหลีใต้ไม่ได้ให้รายละเอียดเรื่องกำหนดวันซ้อมรบดังกล่าว

          ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ เกาหลีใต้และญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ร่วมในวันนี้ (24 มิ.ย.67) ประณามการทำข้อตกลงด้านกลาโหมระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซียเมื่อสัปดาห์ก่อน ระบุว่า การทำข้อตกลงร่วมมือกันด้านกลาโหมดังกล่าวสร้างความไม่สบายใจให้กับทุกประเทศที่มีหน้าที่รักษาสันติภาพและความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลี ตลอดถึงควบคุมไม่ให้มีการทำให้อาวุธร้ายแรงแพร่หลายไปทั่วโลก พร้อมย้ำจุดยืนเรื่องการสนับสนุนชาวยูเครนในการปกป้องเสรีภาพและเอกราชจากการรุกรานของรัสเซีย

         นักวิเคราะห์ ระบุว่า จากแถลงการณ์ร่วมแสดงให้เห็นว่า เกาหลีใต้และญี่ปุ่น หวั่นวิตกว่า การทำข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของพวกเขา ภายใต้ข้อตกลงนี้ นายปูติน ได้เชื่อมโยงเรื่องความมั่นคงของคาบสมุทรเกาหลีเข้ากับเรื่องการบุกยูเครนของรัสเซีย อีกทั้งขู่จะติดอาวุธให้กับเกาหลีเหนือ ถ้าหากเกาหลีใต้ส่งมอบอาวุธให้กับยูเครน

#เรือบรรทุกเครื่องบินรบสหรัฐ

#คาบสมุทรเกาหลี