เดโมแครตกังวล เสนอเลือกผู้ลงสมัครเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่แทนไบเดน

28 มิถุนายน 2567, 12:07น.


          สมาชิกพรรคเดโมแครต และผู้สนับสนุนจำนวนมากเรียกร้องให้พรรคเลือกตัวแทนพรรคคนใหม่แทนที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน เพื่อลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ หลังจากที่นายไบเดนมีอาการงุนงงเป็นระยะในระหว่างการโต้วาทีนัดแรก กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน ส่งผลให้ชาวอเมริกันจำนวนมากมีความกังวลว่า นายไบเดนวัย 81 ปี จะมีอายุมากเกินไปที่จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่ในเวลาเดียวกันก็มีความกังวลว่านายทรัมป์จะกลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง



          หนึ่งในผู้บริจาครายใหญ่ของเดโมแครต วิจารณ์ว่า นายไบเดนทำได้ไม่ดีนักในการโต้วาทีนัดแรก และคาดหวังให้พรรคเลือกตัวแทนพรรคคนใหม่ ในการประชุมใหญ่ของพรรคในเดือนสิงหาคมนี้ ก่อนการโต้วาที ผู้ใหญ่ชาวอเมริกันประมาณร้อยละ 59 ยอมรับว่ามีความกังวลมากเกี่ยวกับอายุของนายไบเดน และเมื่อสอบถามสมาชิกพรรคเดโมแครตพบว่า ร้อยละ 31 มีความกังวลเกี่ยวกับอายุของนายไบเดน



          การโต้วาทีครั้งนี้ มีการกำหนดประเด็นคำถามไว้เกี่ยวกับเศรษฐกิจ สังคม และภาวะโลกร้อน แต่นายไบเดนยกประเด็นการดำเนินคดีนายทรัมป์ขึ้นมาโจมตีอีกฝ่ายหลายครั้ง จนถึงการบิดเบือนบันทึกการทำงาน และเรื่องน้ำหนักตัว ซึ่งก็ถูกนายทรัมป์ตอบโต้กลับมาอย่างรวดเร็ว



          หลังการโต้วาทีจบลง กลุ่มผู้สนับสนุนนายทรัมป์ประกาศชัยชนะทันที ในขณะที่พรรคเดโมแครตแสดงความกังวลและยอมรับว่านายไบเดนทำได้ไม่ดีนัก เพราะแม้ว่าจะตอบคำถามได้ตรงประเด็นมากกว่า แต่ก็ขาดความกระตือรือร้นอย่างชัดเจน



         อย่างไรก็ตาม นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวให้สัมภาษณ์กับ CNN ยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ แต่เห็นว่า แม้การเริ่มต้นจะเป็นไปอย่างช้าๆ แต่จะจบลงอย่างแข็งแกร่ง



          ในการโต้วาทีครั้งนี้นายไบเดนดูงุนงง เสียสมาธิ นิ่งเงียบ และเปลี่ยนคำตอบหลายครั้ง เขาเริ่มต้นการตอบคำถามด้านเศรษฐกิจด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ซึ่งต่อมาคณะทำงานของเขาชี้แจงว่า นายไบเดนป่วยเป็นไข้หวัด และมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ มีช่วงหนึ่งที่เขาเปลี่ยนจากคำตอบเกี่ยวกับนโยบายภาษีเป็นนโยบายด้านสุขภาพ ทั้งพูดผิดบ่อย ๆ และไม่สามารถอธิบายในประเด็นสิทธิการทำแท้ง ให้คำอธิบายอย่างสับสนเกี่ยวกับการพิจารณาคดีเกี่ยวกับหญิงที่ถูกข่มขืนจนตั้งครรภ์ (คดี Roe v. Wade)



          ส่วนนายทรัมป์ นอกจากจะอ้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เขายังคงไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ต่อนายไบเดนในการเลือกตั้งครั้งก่อน ทั้งไม่ยอมรับความผิดในเหตุจลาจล 6 มกราคม 2564 โดยอ้างว่า เมื่อวันที่ 6 มกราคม สหรัฐฯได้รับการเคารพจากทั่วโลก แต่เมื่อนายไบเดนเข้ามาก็ทำให้สหรัฐฯ ถูกหัวเราะเยาะ ทั้งปกป้องผู้ร่วมก่อเหตุจลาจลซึ่งถูกดำเนินคดี



การโต้วาทีในครั้งนี้เป็นการเน้นย้ำว่าทั้ง 2 คนมีนโยบายที่แตกต่างกันอย่างมากในทุกประเด็น รวมถึงความรู้สึกส่วนตัวที่มีความเป็นปฏิปักษ์ต่อกันอย่างรุนแรง



          นายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี้ ผู้สมัครอิสระในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี กล่าวว่าเป็นการโต้วาทีที่ทำให้ชาวอเมริกันรู้สึกสิ้นหวังต่อผู้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคใหญ่ และหวังว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะพิจารณาลงคะแนนเลือกนายเคนเนดี้อย่างจริงจังมากขึ้น



___



#โต้วาที



#สหรัฐอเมริกา

ข่าวทั้งหมด

X