นักลงทุนสหรัฐ ให้น้ำหนักเฟดลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง หลังตัวเลข ดัชนี PCEชะลอตัว

          นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ย. และปรับลดอีกครั้งในเดือนธ.ค. หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่ชะลอตัวลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด

          ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักร้อยละ 61.1 ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 สู่ระดับร้อยละ 5.00-5.25 ในการประชุมเดือนก.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนัก ร้อยละ59.5 เมื่อวานนี้

          นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนักร้อยละ 44.7 ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 สู่ระดับ ร้อยละ4.75-5.00 ในการประชุมเดือนธ.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนักร้อยละ 43.0 เมื่อวานนี้

           กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้นร้อยละ 2.6 ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับร้อยละ 2.7 ในเดือนเม.ย.

        เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนพ.ค. หรือปรับตัวขึ้น ร้อยละ 0.0 สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับร้อยละ 0.3 ในเดือนเม.ย.

        ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้นร้อยละ 2.6 ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับร้อยละ 2.8 ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้นร้อยละ 0.1 ในเดือนพ.ค. สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ ร้อยละ 0.3 ในเดือนเม.ย.

#เฟดลดดอกเบี้ย