ชาวอังกฤษ ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง สส.แล้ว เรียกร้องรัฐบาลชุดใหม่ แก้ปัญหาเศรษฐกิจ

           คูหาเลือกตั้งทั่วอังกฤษเริ่มเปิดแล้ว เพื่อให้พลเมืองผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทั้งหมด 46 ล้านคน ได้เลือก สส. จำนวน 650 คน เข้าไปทำหน้าที่ในสภาสามัญชน หรือสภาผู้แทนราษฎร  หลังนายริชี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ประกาศยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งก่อนครบวาระ นับเป็นการตัดสินใจเดิมพันครั้งใหญ่ เพราะพรรคอนุรักษ์นิยมของเขากำลังมีคะแนนนิยมตกต่ำ ตามหลังพรรคแรงงานคู่แข่ง

          การหาเสียงวันสุดท้ายเมื่อวานนี้ นายซูแน็ก ยังประกาศกร้าวว่า ถึงแม้จะเข้าใจดีว่ากำลังเสียเปรียบ แต่พรรคอนุรักษ์นิยมของเขาจะไม่มีวันยอมแพ้และจะต่อสู้จนถึงวินาทีสุดท้าย เพื่อไม่ให้พรรคแรงงานได้ครองอำนาจ ซึ่งจะสร้างอันตรายต่อประเทศชาติ

          ผู้นำอังกฤษได้มุ่งเน้นนโยบายตัดลดภาษีเป็นเรื่องหลัก แต่ไม่สามารถดึงดูดแรงหนุนได้มากนัก เพราะจากผลการสำรวจความคิดเห็นหลายสำนักพบว่าพรรคแรงงานจะชนะการเลือกตั้ง และทำให้นายเคียร์ สตาร์มเมอร์ หัวหน้าพรรคแรงงาน ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป  

           สำหรับ ผลวิจัยพบว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ความสำคัญในการเลือกตั้งครั้งนี้ คือ เรื่องเศรษฐกิจ มากที่สุด 52% อันดับ 2 เรื่องสุขภาพ 50% อันดับ 3 เรื่องการเข้าเมืองและการลี้ภัย 40% อันดับ 4 การจัดหาที่อยู่อาศัย 24% อันดับ 5 สิ่งแวดล้อม 20% 

           สหราชอาณาจักร เจอปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งภาวะเงินเฟ้อและการเติบโตของเศรษฐกิจที่เชื่องช้า ซึ่งทั้งสองอย่างนี้รวมกันทำให้ผู้คนรู้สึกยากจนขึ้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีผู้แสวงหาที่ลี้ภัยและผู้ย้ายถิ่นฐานด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจจำนวนมากแอบเข้าสู่สหราชอาณาจักร ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อการควบคุมพรมแดนของรัฐบาล

          ส่วนแนวทางแก้ปัญหาของพวกเขาคือเนรเทศผู้อพยพเหล่านั้นไปยังรวันดา ก็ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าผิดกฎหมายระหว่างประเทศและไร้มนุษยธรรม เรื่องการให้บริการทางสุขภาพเป็นอีกเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องรับมือ เนื่องจากระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ซึ่งให้บริการดูแลสุขภาพฟรีแก่ทุกคนนั้นยังมีปัญหาเรื่องการให้บริการที่ผู้ใช้บริการต้องรอคิวนานทุกๆบริการ

#เลือกตั้งอังกฤษ