รัฐบาลขอประชาชนมั่นใจน้ำประปา ของกปน.ปลอดภัย มีการเฝ้าระวังและสุ่มตรวจทุกพื้นที่บริการ

13 กรกฎาคม 2567, 08:49น.


          กรณีที่มีการส่งต่อข้อความเกี่ยวกับพบสารปนเปื้อนอันตรายในน้ำประปาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี การประปานครหลวง หรือ กปน. กระทรวงมหาดไทย ได้ตรวจสอบข้อความเหล่านี้ และชี้แจงว่า กปน. มีการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำประปาครอบคลุมทุกพื้นที่บริการ ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก มีการประสานงานกับห้องปฏิบัติการภายนอกเพื่อตรวจยืนยันคุณภาพน้ำประปา และยังมีศูนย์บูรณาการคุณภาพน้ำเฝ้าระวังคุณภาพน้ำประปา ผ่านสถานีตรวจวัดคุณภาพน้ำประปาอัตโนมัติแบบ Real time ที่ติดตั้งโดยรอบพื้นที่จ่ายน้ำ พร้อมทั้งระบบจ่ายคลอรีนปลายสายติดตั้งที่สถานีสูบจ่ายน้ำ เพื่อควบคุมให้น้ำประปามีคลอรีนอิสระคงเหลือในปริมาณที่เหมาะสม



          สำหรับสารปนเปื้อนอื่น ๆ ที่มีการสอบถามเพิ่มเติม กปน. ชี้แจงดังนี้



          สาร PFOS (Perfluorooctanesulfonic acid) และ PFOA (Perfluorooctanoic acid) ซึ่งเป็นสารเคมีในตระกูล PFAS (per- and polyfluoroalkyl substances) ที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้นเพื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรม มีคุณสมบัติลดแรงตึงผิว สามารถไม่ให้น้ำและไขมันยึดเกาะได้ จึงมักใช้ในการเคลือบผิวผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน โฟม สารเคลือบกระทะ เสื้อผ้าที่กันเปื้อน แชมพู และโฟมดับเพลิง อย่างไรก็ตาม สหภาพยุโรปได้ออกระเบียบห้ามใช้สาร PFOS ในผลิตภัณฑ์ รวมทั้งประเทศไทยออกประกาศให้สารกลุ่มนี้เป็นสารอันตรายประเภท 4 คือห้ามใช้ แต่ใช้ได้เฉพาะในอุตสาหกรรมชุบโลหะซึ่งต้องขออนุญาต และรายงานการใช้ และการจัดการของเสีย ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในประเทศไทยจึงเลิกใช้สารกลุ่มนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 จากสถิติของกรมโรงงานมีการนำเข้าสารกลุ่มนี้น้อยกว่า 300 กิโลกรัมต่อปี ดังนั้น สาร PFOS จึงมีโอกาสการปนเปื้อนในแหล่งน้ำระดับต่ำ



          ยาปฏิชีวนะต่าง ๆ มีการปนเปื้อนในระดับเล็กน้อยที่ไม่ส่งผลโดยตรงต่อร่างกายมนุษย์ แหล่งน้ำดิบที่ใช้ในการผลิตน้ำของ กปน. ไม่ใช่แหล่งน้ำปิด แต่เป็นแหล่งน้ำที่มีการไหลเวียนตลอดเวลาจึงไม่เกิดการสะสมของยาปฏิชีวนะ ในต่างประเทศและในประเทศไทย ยังไม่ได้กำหนดค่ามาตรฐานหรือเกณฑ์ควบคุม และไม่มีห้องปฏิบัติการในประเทศที่ตรวจวิเคราะห์สารกลุ่มยาปฏิชีวนะในน้ำ



          ไมโครพลาสติก คือ อนุภาคพลาสติกที่มีขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร (5,000 ไมครอน) มักเกิดจากการย่อยสลายหรือแตกหักของพลาสติกต่าง ๆ ที่ใช้ในครัวเรือนและอุตสาหกรรม เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายที่มีส่วนผสมของไมโครบีดส์ เม็ดสครับในเครื่องสำอางและยาสีฟัน ส่วนใหญ่มีรูปร่างทรงกลม ทรงรี เส้นตรงหรือบางครั้งมีรูปร่างไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม ไมโครพลาสติกยังไม่มีการพัฒนาวิธีการวิเคราะห์หาปริมาณที่เป็นมาตรฐาน ยังไม่มีการกำหนดเกณฑ์ควบคุม และยังขาดการศึกษาวิจัยถึงผลกระทบต่อมนุษย์ที่เพียงพอ



          ชี้แจงว่า กปน. มีการทำวิจัยร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เพื่อศึกษาขนาด ปริมาณ และชนิดของไมโครพลาสติก ตลอดกระบวนการผลิตน้ำประปา และมีกระบวนการกรองซึ่งสามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กได้ ดังนั้น โอกาสที่น้ำประปาจะมีการปนเปื้อนของไมโครพลาสติกจึงมีเพียงเล็กน้อย



          ส่วนกรณีของโปรโตซัวก่อโรคในระบบทางเดินอาหาร ที่ทำเกิดโรคอุจจาระร่วงอย่างเฉียบพลัน กปน. มีการเฝ้าระวังด้วยการส่งตัวอย่างน้ำดิบและน้ำประปาไปตรวจวิเคราะห์เป็นระยะ ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งผลการวิเคราะห์ที่ผ่านมาไม่พบการปนเปื้อนโปรโตซัว



...



#การประปานครหลวง



#ทำเนียบรัฐบาล

ข่าวทั้งหมด

X