ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า บรรดาญาติของผู้โดยสารและลูกเรือที่เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 777-200ER ของมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 ถูกยิงด้วยขีปนาวุธตกในยูเครน ได้รวมกลุ่มกับเจ้าหน้าที่ออสเตรเลียในอาคารรัฐสภาออสเตรเลียในกรุงแคนเบอร์ราในวันนี้(17 ก.ค.) เพื่อร่วมรำลึกในโอกาสครบ 10 ปีของเหตุที่น่าเศร้าสลดใจ ผู้โดยสารเสียชีวิต 283 รายและลูกเรือ 15 ราย รวมทั้งหมด 298 ราย โดยเหตุเกิดขณะบินจากกรุงอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ ไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย
นายพอล การ์ด หนึ่งในญาติผู้เสียชีวิต ตำหนิเรื่องการสู้รบระหว่างกองทัพยูเครนกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อ 10 ปีก่อนว่าเป็นต้นเหตุให้มีการยิงขีปนาวุธ กระทั่งเครื่องบินโดยสารดังกล่าวถูกยิงตก ในกลุ่มผู้เสียชีวิตมีพลเมืองออสเตรเลียและชาวต่างชาติที่มีที่พักอาศัยประจำในออสเตรเลียจำนวน 38 ราย รวมถึง นายเจอร์ และนางจิล การ์ด พ่อแม่ของเขา ซึ่งมีอาชีพเป็นแพทย์ในเมืองทูวูมบา (Toowoomba) รัฐควีนส์แลนด์
นายพอล ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอบีซีของออสเตรเลียว่า เขาไม่คิดว่าจะมีใครมีเจตนาใช้ขีปนาวุธยิงเครื่องบินโดยสาร และเขารู้สึกใจสลายที่ยังคงมีการสู้รบในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ที่สำคัญกว่านั้น ญาติของผู้เสียชีวิตต้องการให้มีนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายและรัสเซียไม่ควรจะบุกเข้ามาก่อสงครามในยูเครนตั้งแต่แรก ทั้งนี้ ปัญหาสู้รบในพื้นที่ได้กลายเป็นสงครามอย่างเต็มรูปแบบ หลังรัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565
นักวิเคราะห์ระบุว่า กลุ่มแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียใช้ขีปนาวุธบุ๊ก(Buk)ประเภทยิงจากพื้นสู่อากาศที่ผลิตในยุคอดีตสหภาพโซเวียต ยิงเครื่องบินโบอิ้ง เที่ยวบิน MH17 ด้านรัสเซียปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยิงเครื่องบินดังกล่าวและปฏิเสธที่จะส่งชาวรัสเซีย 2 คนและชาวยูเครน 1 คน ที่ถูกระบุว่า เป็นจำเลยที่ต้องรับผิดฆ่าคนตายในคดีนี้ ตามคำพิพากษาของศาลของเนเธอร์แลนด์ในปี 2565 ไปยังเนเธอร์แลนด์ เพื่อรับโทษตามกฎหมาย
#รำลึก10ปี
#เที่ยวบินMH17