แพทยสภาส่งหนังสือถึง 'หมอเกศ' แจงอ้าง'เชี่ยวชาญความงาม' วุฒิอื่นไม่ก้าวล่วง

18 กรกฎาคม 2567, 18:11น.


          แพทยสภาลงมติตั้งข้อกล่าวโทษ สว.เกศกมล อ้างเชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงาม ซึ่งไม่ผ่านการรับรอง ด้านเลขาธิการแพทยสภา เผยขั้นตอนตามมติให้ฝ่ายจริยธรรมตรวจสอบข้อเท็จจริง เรียกเอกสารเจ้าตัว ดำเนินการตามกฎหมาย



          จากกรณีมีรายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 11/2567 มีการหยิบยกประเด็นคุณสมบัติ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือ"หมอเกศ" สว.กลุ่ม19 (กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ) กรณีกรอกประวัติเป็น “แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงาม” ขึ้นมาพิจารณา เนื่องจาก เห็นว่า เป็นความเชี่ยวชาญที่ไม่ได้มีการรับรอง โดยที่ประชุมมีมติตั้งข้อกล่าวโทษ พญ.เกศกมล ตามมาตรา 32 วรรคสาม พระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 มอบหมายให้เลขาธิการแพทยสภา ดำเนินการตามข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยวิธีพิจารณาจริยธรรมผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2563 โดยจากนี้จะมีการนำเข้าที่ประชุมกรรมการแพทยสภาอีกครั้งในวันที่ 8 ส.ค.นี้ ตามรอบการประชุมกรรมการแพทยสภาทุกวันพฤหัสบดีที่ 2 ของเดือน ซึ่งตามขั้นตอนแล้ว หากมีมติรับรองก็จะส่งเข้าที่ประชุมอนุกรรมการจริยธรรมเพื่อพิจารณาต่อไป





          พล.อ.ท.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณากรณี พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือหมอเกศ สว.กลุ่ม19 (กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ) กรอกประวัติเป็น 'แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงาม' ซึ่งไม่ได้เป็นความเชี่ยวชาญที่มีการรับรองโดยแพทยสภา ว่า ตามที่ข่าวปรากฏทางสื่อสารมวลชน กรณีมีการระบุเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงามนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา จึงได้ยกประเด็นนี้ขึ้นมาตรวจสอบ แล้วมีมติให้ฝ่ายจริยธรรมดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อมาประกอบการพิจารณา เช่น ขอเอกสารจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  และเอกสารจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเอกสารจากเจ้าตัว เพื่อมาตรวจสอบ และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งหนังสือขอเอกสารนั้น ได้ส่งออกไปในวันนี้ (18 ก.ค.)



          ส่วนต้องเรียก สว.เกศกมล เข้ามาให้ข้อมูลด้วยหรือไม่ พล.อ.ท.นพ.อิทธพร กล่าวว่า ต้องขอดูข้อมูลที่ชี้แจงกลับมาก่อนว่าเพียงพอที่จะพิจารณาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้แพทยสภายังไม่มีการประสานเป็นการส่วนตัว



          แพทยสภามีอำนาจตรวจสอบเฉพาะวุฒิของแพทย์เท่านั้น ส่วนวุฒิอื่นๆ ที่เป็นประเด็นนั้น เช่น วุฒิด็อกเตอร์ แพทยสภาจะไม่ก้าวล่วง เป็นเรื่องของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ดังนั้นที่แพทยสภาจะพิจารณาเรื่องแรก คือ ประเด็นการระบุว่า เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงาม ส่วนกรณีอื่นจะพิจารณาเป็นลำดับต่อไป



          การอ้างความเชี่ยวชาญถือเป็นความผิดร้ายแรงหรือไม่ พล.อ.ท.นพ.อิทธพร กล่าวว่า การโฆษณาต้องดูเจตนาว่าให้คนเข้าใจผิดเพื่อผลประโยชน์หรือไม่ ตอนนี้แพทยสภายังไม่ทราบว่า การให้ประวัตินั้นมีเจตนาใด จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นความผิดร้ายแรงหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวก็ต้องอธิบายให้ชัดเจน



          กรณีอ้างความเชี่ยวชาญดังกล่าวเพื่อหวังผลในด้านที่ไม่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น เพื่อหวังผลให้ได้รับเลือกเป็นสว. ถือว่า เป็นความผิดอย่างไรหรือไม่ จะพิจารณาด้วยหรือไม่ พล.อ.ท.นพ.อิทธพร กล่าวว่า กรณีนี้น่าสนใจ แต่ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะเป็นกรณีแรก เนื่องจาก ที่ผ่านมา ไม่เคยมีสว.ท่านใด นำไปใส่ในประวัติแล้วเกิดปัญหาเช่นนี้ เรื่องนี้ขอให้คณะกรรมการแพทยสภาพิจารณาตามข้อมูล ข้อเท็จจริงก่อน ส่วนระยะเวลาการพิจารณานั้นเป็นไปตามกรอบเพื่อความเป็นธรรม



          เรื่องนี้จะถูกมอบหมายให้คณะอนุกรรมการจริยธรรมชุดใดชุดหนึ่ง ที่มีอยู่ 13 ชุด ดำเนินการ โดยแพทยสภาจะนำเข้าในชุดที่ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน อาทิ คณะกรรมการที่มาจากมหาวิทยาลัยที่คุณหมอจบการศึกษามา แพทยสภาขอยืนยันว่า การตั้งเรื่องสอบจริยธรรมเป็นไปตามมติกรรมการแพทยสภา มีขั้นตอนและมาตรฐานตามกฎหมายในการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย ก่อนมีมติตัดสินใด ๆ ด้วยความเป็นธรรม โดยไม่มีข้อยกเว้น





          ก่อนหน้า พญ.ชัญวลี ศรีสุโข กรรมการแพทยสภา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊กส่วนตัว ระบุถึง 'แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงาม'  ว่า แม้แพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม จะได้ปฏิบัติงาน ทางด้าน ผิวพรรณและ ความงาม จนโด่งดัง เป็นเซเลบ เป็นที่รู้จักกว้างขวาง



          แต่เนื่องจาก แพทยสภาไม่ได้รับรอง การใช้คำว่า ‘เชี่ยวชาญ’ ในสาขาที่แพทยสภาไม่อนุมัติถือว่าเป็นความผิดทางกฎหมายตามพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ยกเว้น แพทย์ที่ผ่านซี9 กระทรวงสาธารณสุข ที่กำหนดไว้ว่า เป็นระดับแพทย์เชี่ยวชาญ ดังนั้น การที่แพทย์กระทรวงสาธารณสุข ระดับซี 9 ใช้ คำว่า แพทย์ (ระดับ) เชี่ยวชาญไม่ถือว่ามีความผิด



          คำว่า ‘แพทย์เชี่ยวชาญผิวพรรณและความงาม’ ถือว่าผิดกฎหมายตามพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม 2525 มาตรา 28 ‘ ห้ามไม่ให้ผู้ใดใช้คำหรือข้อความที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญ ในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขาต่าง ๆ ทั้งนี้รวมถึงการใช้จ้างวานหรือยินยอม ให้ผู้อื่นกระทำดังกล่าวให้แก่ตน เว้นแต่ผู้ได้รับวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขานั้นๆ จากแพทยสภา หรือที่แพทยสภารับรอง หรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมผู้มีคุณสมบัติตามที่กำหนดในข้อบังคับแพทยสภา พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม นี้ตรามาตั้งแต่ปี พ.ศ 2525 นับเป็นเวลากว่า 40 ปี แต่ยังคงใช้ เป็นกฎหมายมาจนจวบปัจจุบัน



          ดังนั้น แพทย์ผู้ดูแลด้านผิวพรรณและความงาม อาจจะประชาสัมพันธ์ตนได้แค่ว่าเป็นแพทย์ผู้ดูแลผิวพรรณและความงาม จะเติมว่ามีความรู้ ความชำนาญ เชี่ยวชาญ ไม่ได้



 



Cr:เพจHFOCUS https://www.hfocus.org/content/2024/07/31122



 



#แพทยสภา



#หมอเกศ



 

ข่าวทั้งหมด

X