แฮร์ริสยืนยันความพร้อมโต้วาที ขณะที่ทรัมป์พบหารือเนทันยาฮูสนับสนุนสันติภาพตะวันออกกลาง

27 กรกฎาคม 2567, 07:02น.


          การรณรงค์หาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งฝ่ายพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันมีความเข้มข้นมากขึ้น



นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต กล่าวว่าเธอพร้อมที่จะโต้วาทีกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีและตัวแทนพรรครีพับลิกัน และกล่าวหาว่าเขาพยายามหลีกเลี่ยงการโต้วาทีในวันที่ 10 กันยายน ซึ่งเป็นการโต้วาทีหนึ่งในสองครั้งที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนและนายทรัมป์จะต้องเผชิญหน้ากัน



          การโต้วาทีครั้งแรกจัดขึ้นโดย CNN เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน หลังจากนั้นนายไบเดนถอนตัวออกจากการเป็นตัวแทนพรรคและสนับสนุนนางแฮร์ริสเป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง



          และเพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากขึ้น นางแฮร์ริส เปิดตัวบัญชี TikTok อย่างเป็นทางการ มีผู้ติดตามประมาณ 1 ล้าน 7 แสนคน การอัปโหลดวิดีโอเพียงแค่คลิปเดียวมียอดผู้ชมรวม 3 ล้าน 4 แสนครั้ง



           นายทรัมป์มีบัญชี TikTok ตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายน และมีผู้ติดตามมากกว่า 9 ล้านคน แม้จะมีความกังวลว่าอาจเกี่ยวข้องกับบริษัทเทคโนโลยีในประเทศจีน แต่ปัจจุบันสหรัฐอเมริกามีผู้ใช้งานมากถึง 170 ล้านคน



          ส่วนในการที่นายเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล เดินทางเยือนสหรัฐฯ และเข้าพบหารือนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนางแฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาว ซึ่งเธอแสดงความต้องการให้อิสราเอลยุติสงครามในฉนวนกาซา จากนั้นนายเนทันยาฮูได้พบหารือกับนายทรัมป์ ที่รีสอร์ตหรูมาร์-อา-ลาโก ในรัฐฟลอริดา





          ทีมรณรงค์หาเสียงของนายทรัมป์ ออกแถลงการณ์ว่า นายเนทันยาฮู กล่าวขอบคุณที่ให้การสนับสนุนอิสราเอล โดยเฉพาะการย้ายสถานทูตสหรัฐฯไปที่เยรูซาเล็ม ขณะที่นายทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะนำสันติภาพมาสู่ตะวันออกกลางและจัดการกับกระแสต่อต้านชาวยิวในมหาวิทยาลัยต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา



          นายทรัมป์ เคยอ้างตัวว่าเป็นประธานาธิบดีที่สนับสนุนอิสราเอลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคปัจจุบัน และมีความสนิทใกล้ชิดเป็นการส่วนตัวกับนายเนทันยาฮู แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองแย่ลง หลังจากที่นายเนทันยาฮูแสดงความยินดีกับนายไบเดน ที่ชนะการเลือกตั้งในปี 2563



          ส่วนกรณีที่ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเหตุการณ์พยายามลอบสังหาร สำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ ยืนยันว่า นายทรัมป์ถูกกระสุนปืนหรือเศษกระสุนจากความพยายามลอบสังหารจริง ในแถลงการณ์ของเอฟบีไอ ระบุว่า “กระสุนที่ยิงใส่หูของนายทรัมป์เป็นกระสุนปืนที่ยิงมาจากปืนไรเฟิลของผู้เสียชีวิต” ซึ่งเป็นการย้ำคำชี้แจงของนายคริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอ ที่เข้าชี้แจงต่อรัฐสภาเมื่อวันพุธ (24 ก.ค.67)



          และนายทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ Truth Social ว่าเขาจะเดินทางกลับไปที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเขารอดชีวิตจากการพยายามลอบสังหาร เพื่อร่วมชุมนุมเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน



...



#ทรัมป์



#แฮร์ริส



#เลือกตั้งสหรัฐฯ

ข่าวทั้งหมด

X