กรมอุทยานฯ สั่งปรับ-ดำเนินคดี บริษัททัวร์ ฝ่าฝืนเข้าไปในถ้ำน้ำทะลุ สุราษฎร์ฯ

           จากเหตุไกด์ 2 คน พากลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เข้าไปในถ้ำน้ำทะลุหรือถ้ำรอด ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของเขื่อนรัชชประภา ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 6 ส.ค.67 ทั้งๆที่ได้มีการประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวประจำปี ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.67 ถึงวันที่ 30 พ.ย.67 และเกิดเหตุฝนตกหนักและต่อเนื่อง เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมถ้ำน้ำทะลุ ท้ายเขื่อนรัชชประภา อย่างรวดเร็ว ในเวลาประมาณ 19.00 น. ไกด์นำเที่ยวจึงได้โทรประสานเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาสก เพื่อเข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ช่วยได้ทุกคน ยกเว้น นายปองยศ ไกด์ ที่สูญหายและมาพบว่าเสียชีวิต

           นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  สั่งการให้นายกุลบล พลวัน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสก ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดกับบริษัททัวร์ฯ ซึ่งได้ฝ่าฝืนนำนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวในถ้ำน้ำทะลุ กรมอุทยานแห่งชาติฯได้มีประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวประจำปี บริเวณถ้ำทะลุ ในช่วงเวลาดังกล่าวของทุกปี เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงหน้าฝน มีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ถ้ำน้ำทะลุเป็นประจำทุกปี ในอดีตเมื่อปี 2550 เคยเกิดเหตุน้ำป่าทะลักเข้าถ้ำมาแล้ว เหตุการณ์ครั้งนั้นมีนักท่องเที่ยวและไกด์เสียชีวิตจำนวน 7 ราย

          อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  เปิดเผยเพิ่มเติมกับ จส.100 ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เราต้องมาระดมกำลังพลเข้าไปช่วยเหลืออีก อาจจะต้องสูญเสียกำลังพล และเสี่ยงต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปดูแล ตอนนี้ได้เปรียบเทียบปรับไปแล้ว จำนวน  5,000 บาท  และให้ พนักงานสอบสวนไปพิจารณาดูว่า บริษัทรู้เห็นด้วยหรือเปล่าที่ไกด์นำนักท่องเที่ยวเข้าไป  เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหาย ประมาทเลินเล่อ ทำให้ถึงแก่ความตาย ซึ่งมีความผิดตามอาญา ตอนนี้ให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี)  เข้าตรวจสอบด้วยเหมือนกัน ถ้าผิดจริง เราต้องดำเนินการเพิกถอนไม่ให้บริษัททัวร์ดังกล่าวเข้าไปในอุทยานอีก และที่สำคัญ ต้องตรวจสอบว่าเสียชีวิตเพราะอะไร และในอนาคตคงต้องเอาเทคโนโลยี เข้าไปตรวจสอบแบบเรียลไทม์ สามารถเฝ้าดูได้ ตลอด24ชม.และถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้รับแจ้งว่ามีไกด์แอบเข้าไปในเขตพื้นที่อันตราย ห้ามเข้า ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน 

          จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอฝากเตือนไปยังบริษัทนำเที่ยวทุกแห่ง และ นักท่องเที่ยว ขอให้ตรวจสอบการปิดแหล่งท่องเที่ยวประจำปีของอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ และการปิดแหล่งท่องเที่ยวในกรณีฉุกเฉิน

         หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสก เปิดเผยว่า เรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบ เพราะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเส้นทางเดินป่า ซึ่งมีการอนุญาตให้สามารถเดินป่าได้ แต่กลุ่มนักท่องเที่ยวกลับเข้าไปในพื้นที่ที่มีการประกาศปิด ซึ่งจะต้องมีการเข้มงวดกันต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย

#ฝ่าฝืนเข้าถ้ำ

#อุทยานแห่งชาติเขาสก

#สุราษฎร์ธานี

Cr.ขอบคุณข้อมูล-ภาพ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช