กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทของเวียดนาม รายงานช่วงเย็นวานนี้ (8 ก.ย.67) ยอดผู้เสียชีวิตจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นยางิ อยู่ที่อย่างน้อย 24 ราย บาดเจ็บ 299 คน โดย จ.หล่าวกาย มีผู้เสียชีวิตมากสุด 6 ราย จากเหตุดินถล่มทับ ที่เกิดขึ้นในเมืองซาปา ช่วงเที่ยงวานนี้ (8 ก.ย.67) ขณะที่ สำนักอุตุนิยมวิทยาเวียดนาม ปรับลดระดับซูเปอร์ไต้ฝุ่นยางิ ลงมาอยู่ที่ดีเปรสชันเขตร้อน แต่ยังคงเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงของการเกิดน้ำท่วมและดินถล่ม จากอิทธิพลของพายุ ซึ่งเป็นพายุที่มีความรุนแรงสุดในรอบหลายทศวรรษ ที่พัดเข้าเวียดนาม
ด้านนายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ ของเวียดนาม เป็นประธานการประชุมหน่วยงานต่างๆ เช้าวานนี้ (8 ก.ย.67) เกี่ยวกับการดำเนินการหลังซูเปอร์ไต้ฝุ่นยางิพัดถล่มในหลายพื้นที่ จากนั้นนายฝ่าม ลงพื้นที่ จ.กว๋างนินห์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนาม เพื่อตรวจสอบความเสียหายที่เกิดจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นยางิ และปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ในพื้นที่ประสบภัย รวมทั้งตรวจเยี่ยมบ้านเรือนและธุรกิจร้านค้าต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ และเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลกว๋างนินห์
นอกจากนี้ นายฝ่ามแสดงความชื่นชมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ สมาชิกสหภาพเยาวชน และกำลังพลของกองทัพ ที่ลงพื้นที่เก็บกวาดซากความเสียหายและถนนสายต่างๆ โดยนายฝ่ามขอให้เพิ่มความพยายามมากขึ้น เพื่อให้เมืองฮาลองกลับมาสะอาดและเป็นพื้นที่สีเขียวอีกครั้ง ขณะเดียวกัน มอบหมายให้บรรดาผู้ให้บริการไฟฟ้าและโทรคมนาคม ส่งเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพื่อกู้กระแสไฟฟ้าและบริการโทรคมนาคมใน จ.กว๋างนินห์ ให้กลับมาใช้การได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ส่วนท่าอากาศยาน 4 แห่งในพื้นที่ตอนเหนือของเวียดนาม ซึ่งรวมถึงท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย ในกรุงฮานอย กลับมาเปิดทำการตั้งแต่เช้าวานนี้ (8 ก.ย.67) ขณะที่ สายการบินแบมบู แอร์เวย์ สายการบินเวียดนาม แอร์ไลน์ และสายการบินเวียดเจ็ท ประกาศกลับมาให้บริการเที่ยวบิน ทั้งขาเข้าและขาออกจากทั้ง 4 ท่าอากาศยาน และเตรียมเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน เพื่อรองรับความต้องการของผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากพายุ
หลายพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุไต้ฝุ่นยางิ ซึ่งเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดในเอเชียในปีนี้ ทั้งฟิลิปปินส์ จีน และ เวียดนาม บางพื้นที่เริ่มสำรวจความเสียหาย ทำความสะอาด สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของเวียดนาม ออกคำสั่งลดระดับความรุนแรงลง แต่เตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมและดินถล่ม ในพื้นที่ริมแม่น้ำ รวมถึงในกรุงฮานอยด้วย เนื่องจากพายุลูกนี้ซึ่งเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่พัดถล่มประเทศในรอบหลายทศวรรษ
ภาคเหนือของเวียดนามที่เจอพายุพัดขึ้นฝั่งที่จ.กว๋างนินห์ โครงสร้างพื้นฐานในศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่เน้นการส่งออกและโรงงานต่างๆได้รับความเสียหาย
เมืองไฮฟอง ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งทะเลของเวียดนามที่มีประชากร 2 ล้านคน และเป็นที่ตั้งของโรงงานของบริษัทข้ามชาติหลายแห่งนั้น ผู้จัดการและพนักงาน เปิดเผยว่า ยังมีการปิดเขตอุตสาหกรรมในวันอาทิตย์(8 ก.ย.67) โรงงานแห่งหนึ่งถูกน้ำท่วม และคนงานบอกว่าพวกเขาถูกส่งกลับบ้านหลังจากพยายามไปทำงานโดยไม่ทราบถึงสภาพการณ์ที่โรงงาน เนื่องจากเครือข่ายโทรคมนาคมยังไม่สามารถกลับมาใช้ได้ บรูโน จาสปาเอิร์ต หัวหน้าเขตอุตสาหกรรม DEEP C ซึ่งมีโรงงานจากนักลงทุนกว่า 150 รายในไฮฟองและจังหวัดกว๋างนินห์ที่อยู่ใกล้เคียง กล่าวว่า พายุทำให้โรงงานได้รับความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญมาก โรงงานบางแห่งหลังคาเปิดหรือส่วนหน้าอาคารถูกพายุพัดหายไปทั้งหมด ขณะที่ โรงงานอย่างน้อยร้อยละ 80 ได้รับความเสียหาย แต่เขตอุตสาหกรรมไม่ได้ถูกน้ำท่วม
เจ้าของร้านวัย 45 ปีในเมืองไฮฟอง กล่าวว่า อาจต้องใช้เวลาเป็นเดือน ในการฟื้นฟูความเสียหาย ส่วนร้านของตัวเองเพดานร้านขายอาหารทะเลพังถล่มลงมา และยังไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้
#เวียดนาม
#พายุยางิ