นักวิเคราะห์ชี้แฮร์ริสเตรียมตัวมาดี ภาพลักษณ์ผู้นำเข้มแข็งกว่าทรัมป์-คะแนนยังสูสี

          นักวิเคราะห์การเมืองที่ติดตามการเลือกตั้งสหรัฐฯ2024 เช่น นายวิลเลียม ชไนเดอร์ อาจารย์พิเศษจากศูนย์ศึกษานโยบาย และรัฐบาล มหาวิทยาลัยจอร์จ เมสันของสหรัฐฯ และนางทิโมธี เจ ลินซ์  อาจารย์วิชารัฐศาสตร์ชาวอเมริกันจากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ออสเตรเลีย เปิดเผยว่า การดีเบตทางโทรทัศน์ครั้งแรกที่ศูนย์รัฐธรรมนูญแห่งชาติในเมืองฟิลาเดลเฟีย เช้าวันนี้ตามเวลาของประเทศไทย ซึ่งอาจจะเป็นการดีเบตครั้งเดียวในศึกเลือกตั้ง 2024 รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต เตรียมตัวมาดี ใช้วิธียั่วโมโห ทำให้อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน รู้สึกหงุดหงิดหลายครั้ง จากการวิจารณ์จุดยืนของนายทรัมป์ในเรื่องข้อจำกัดสิทธิ์การทำแท้ง ความพร้อมด้านสุขภาพของนายทรัมป์วัย 78 ปีในการบริหารประเทศสมัยที่ 2 ตลอดถึงการที่นายทรัมป์เป็นผู้ต้องหาคดีอาญาหลายคดี พร้อมทั้งสามารถชูภาพลักษณ์ให้สาธารณชนในสหรัฐฯเห็นว่า เธอเป็นผู้นำที่เข้มแข็งกว่านายทรัมป์

          ขณะเดียวกัน ผู้สมัครทั้งสองต่างฝ่ายต่างเล็งหาโอกาสที่จะทำผลงานให้ดีกว่าคู่แข่งตลอดการอภิปราย 90 นาที โต้เถียงกันในประเด็นต่างๆเช่น ปัญหาคนเข้าเมือง นโยบายการต่างประเทศและระบบสาธารณสุข ตลอดถึงเรื่องสงครามอิสราเอล-ฮามาสและสงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่ทั้งสองคนพูดน้อยมากในรายละเอียดต่างๆว่าจะผลักดันนโยบายให้สำเร็จอย่างไร

          แต่นักวิเคราะห์มองว่า การดีเบตในครั้งนี้อาจจะไม่มีผลกระทบมากนักต่อทิศทางการเลือกตั้ง 2024 ซึ่งผลสำรวจทั่วประเทศของโพลส่วนใหญ่ของสหรัฐฯบ่งชี้ว่า เป็นการเลือกตั้งที่สูสีมาก โดยผู้สมัครทั้งสองคนมีคะแนนเท่ากัน ขณะเดียวกันยังมีเวลาเหลืออีก 56 วันจะถึงวันเลือกตั้ง 5 พ.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ผู้สมัครทั้งสองคนอาจจะพยายามรักษาฐานเสียงของตนไว้ ทั้งเดินหน้าแย่งคะแนนนิยมจากกลุ่มผู้เลือกตั้งแนวคิดอิสระในช่วงสัปดาห์ท้ายๆก่อนวันเลือกตั้ง เพื่อชนะการเลือกตั้งในที่สุด

#การดีเบต

#การเมืองสหรัฐ