น้ำโขงที่นครพนม ลดลง สั่งเฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกหนัก จากพายุดีเปรสชัน 19-23 ก.ย.

19 กันยายน 2567, 13:58น.


           สถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ. นครพนม สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม รายงานว่า  เช้าวันนี้ (19 ก.ย.67) เวลา 07.00 น. ระดับน้ำโขงที่สถานีวัดน้ำหนองแสง เขตเทศบาลเมืองเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม อยู่ที่ 11.79 เมตร ลดลงจากเมื่อวาน(18 ก.ย.67)  8 เซนติเมตร ต่ำกว่าระดับวิกฤต 21 เซนติเมตร (ระดับวิกฤติ 12 เมตร ) ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 1.21 เมตร จากระดับน้ำที่ลดลงส่งผลให้น้ำที่เอ่อล้นท่วมถนนสวรรค์ชายโขงในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ลดระดับลงตามไปด้วย ยังคงมีน้ำท่วมขังเพียงเล็กน้อย แต่ช่วงปลายถนนสวรรค์ชายโขงที่อยู่ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลท่าค้อ อ.เมืองนครพนม ในพื้นที่ลุ่มต่ำน้ำยังคงท่วมสูงอยู่ แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการสัญจรไปมาของประชาชน เนื่องจากเป็นถนนเลียบแม่น้ำโขงเพื่อการท่องเที่ยวเท่านั้น


         นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ระบุว่า แม้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเริ่มลดลงบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์พายุดีเปรสชันอย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง ตามการแจ้งเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สั่งเฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 23 ก.ย. 67


         นายวันชัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ขอให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ/ท้องถิ่น /ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์พายุดีเปรสชัน


1.) แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และดำเนินการติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด รวมถึงเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักและบริเวณฝนสะสมซึ่งทำให้เกิดอุทกภัยได้ สำหรับที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติโดยเฉพาะถ้ำ น้ำตก ถ้ำลอดหากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาดพร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง


2.) ให้เตรียมพร้อมกำลังพลและเครื่องมือเครื่องจักรกลที่ใช้งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยบูรณาการร่วมกับส่วนราชการ หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือภาคส่วนอื่นๆในพื้นที่ที่สามารถสนับสนุนการปฏิบัติ เพื่อให้ความพร้อมในการช่วยเหลือประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง 


3.) กรณีสิ่งสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ได้รับผลกระทบจนประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถใช้งานได้ เช่น ต้นไม้ล้มทับเส้นทางสัญจร เสาไฟฟ้าโค่น หรือระบบท่อประปาได้รับความเสียหาย ขอให้ประสานหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในพื้นที่เข้าดำเนินการแก้ไขให้สามารถกลับมาใช้งานได้เป็นปกติ 


4.)หากเกิดสถานการณ์ในพื้นที่ให้รายงานสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนมทราบโดยเร็ว ทางโทรศัพท์หมายเลข 042-511025 และรายงานสถานการณ์/การให้ความช่วยเหลือทุกระยะ


          ส่วนบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดริมน้ำอูน ในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม ระดับน้ำเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชน เช่น บ้านปากอูน ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม และ บ้านท่าบ่อ ต.ท่าบ่อสงคราม อ.ศรีสงคราม ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมทุกปี เนื่องจากมีพื้นที่ติดกับลำน้ำอูน ที่ไหลมาสมทบลำน้ำสงคราม ก่อนไหลระบายลงแม่น้ำโขง ที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม แต่เนื่องจากน้ำโขงหนุนสูง ทำให้ไม่สามารถระบายลงน้ำโขงได้ จนเกิดปัญหาเอ่อล้น ตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนของประชาชน เจ้าหน้าที่ทหารพัฒนาชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 หรือ นพค.22 ได้นำเรือท้องแบน อุปกรณ์ชูชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ขนย้ายสิ่งของ เครื่องใช้ไฟฟ้า และย้ายสัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูง




         ส่วนพื้นที่บ้านนาเข หมู่ 6 ตำบลนาเขทุ่ง อ.บ้านแพง ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำที่ไหลลงมาจากเทือกเขาภูลังกา เอ่อท่วมพื้นที่ทางการเกษตรและน้ำได้ไหลเอ่อเข้าท่วมฟาร์มหมูของชาวบ้าน โดยเจ้าของฟาร์มไม่มีเรือขนย้ายหมูซึ่งเป็นแม่พันธุ์ประมาณ 30 ตัว สามารถขนลงเรือได้ครั้งละ 2 ตัว ต้องทำด้วยความระมัดระวังเนื่องจากหมูบางตัวตั้งท้องด้วย เจ้าหน้าที่หลายฝ่าย และทหารเรือหน่วยรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง สถานีเรือบ้านแพง อ.บ้านแพง นำเรือท้องแบนขนย้ายหมูแม่พันธุ์ 30 ตัว ไปไว้ในที่ปลอดภัย หลังระดับน้ำในพื้นที่ยังคงสูงขึ้น




#นครพนม


#น้ำโขงลดลง


#ระวังดีเปรสชัน 


Cr.ขอบคุณข้อมูล-ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย 


 
ข่าวทั้งหมด

X