ปธน.จีนต้องการกระชับความร่วมมือโครงการ BRI กับผู้นำคนใหม่ของศรีลังกา

          สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนได้ส่งสาส์นแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีอนุรา กุมารา ดิสนายาเก ผู้นำคนใหม่ของศรีลังกาในโอกาสเข้ารับตำแหน่งในวันนี้(23 ก.ย.)หลังชนะการเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์(21 ก.ย.) พร้อมแสดงความหวัง ที่จะกระชับความร่วมมือกับศรีลังกาให้มากขึ้น ภายใต้โครงการร่วมมือ เพื่อพัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่เรียกว่า โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง(BRI) หรือ โครงการเส้นทางสายไหมใหม่ 

          นายสี กล่าวว่าประเทศจีนให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ศรีลังกาและพร้อมจะทำงานร่วมกับประธานาธิบดีดิสนายาเก เพื่อสานต่อมิตรไมตรีที่มีแต่ดั้งเดิม ส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างประเทศทั้งสองให้มากขึ้น พร้อมคาดว่าโครงการความร่วมมือ BRI จะเกิดผลดีทางเศรษฐกิจต่อประเทศทั้งสอง นอกจากนี้ ประเทศจีนจะส่งเสริมการช่วยเหลือกันอย่างต่อเนื่องระหว่างจีนและศรีลังกาในฐานะหุ้นส่วนความร่วมมือเก่าแก่ พร้อมทั้งผลักดันให้มีการสร้างประโยชน์ต่างๆมากขึ้นสำหรับประชาชนของประเทศทั้งสอง

         ก่อนหน้านี้ นายดิสนายาเก นักการเมืองฝ่ายซ้ายวัย 55 ปี เข้าทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในวันนี้(23 ก.ย.) โดยให้คำมั่นจะทำงานเพื่อฟื้นฟู สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ทั้งระบบการเมืองและการบริหารของรัฐบาล 

         นักวิเคราะห์ ระบุว่า ศรีลังกาประสบวิกฤตทางเศรษฐกิจมาหลายปีแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงจากหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากโครงการความร่วมมือ BRI  ซึ่งจีนในฐานะเป็นแกนนำในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ และเป็นโครงการของรัฐบาลจีนในการขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจไปสู่ต่างแดน

         โดยนักวิจารณ์ชาติตะวันตก กล่าวหาประเทศจีนใช้โครงการ BRI มาทำให้กลุ่มประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงศรีลังกา ติดกับดักหนี้สิน เช่น มีหนี้สาธารณะสูงขึ้นกระทั่งไม่สามารถชำระหนี้ให้กับประเทศจีนในระยะยาว และกล่าวหาจีนใช้อำนาจต่อรองทางการทูตที่เหนือกว่าเอาเปรียบหรือ ยึดทรัพย์สินของประเทศลูกหนี้ในกรณีผิดนัดชำระหนี้ เช่นในปี 2560 หลังไม่สามารถชำระหนี้ให้กับจีน ทางการศรีลังกาได้ส่งมอบท่าเรือฮัมบันโตตาทางภาคใต้ของศรีลังกาให้บริษัทจีนเช่า 99 ปี รวมมูลค่า 1,120 ล้านดอลลาร์  

#จีน

#สานสัมพันธ์ศรีลังกา