นัดหารือพรรคร่วมรัฐบาล หลังมติพรรคภูมิใจไทย แก้รัฐธรรมนูญ ต้องแก้ทั้งฉบับ ไม่ใช่เฉพาะหมวดจริยธรรม

          นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.พรรคภูมิใจไทย ในฐานะกรรมการบริหารพรรคการประชุม สส.ประจำสัปดาห์ ระบุว่า รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องได้รับการยอมรับจากคนในสังคม และเชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับผ่านสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือ สสร.จะเป็นวิธีการที่ทำให้สังคมเกิดการยอมรับในกติกาการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม  หากจะแก้รัฐธรรมนูญ ควรที่จะแก้ไขทั้งฉบับ ทางที่ดีควรจะเป็นคนกลางจากทุกภาคส่วนในรูปแบบของสสร.ที่เคยทำกันมา และยืนยันมาโดยตลอดว่าหากแก้ไขรัฐธรรมนูญควรจะเดินไปสู่การแก้ไขมาตรา 256 และยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ ยกเว้นการแก้ไขในหมวด1และหมวด 2 ที่ไม่ควรจะแตะต้อง

          ขณะที่นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ออกมาระบุว่า ไม่ได้รับการติดต่อจากพรรคเพื่อไทย เพื่อหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นมาตรฐานจริยธรรม พร้อมกับย้ำว่า เรื่องมาตรฐานจริยธรรม เรามองว่าเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นและเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของนักการเมืองและพรรคการเมือง

          สำหรับ การแก้รัฐธรรมนูญ ที่ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยทำท่าเดินหน้าลุยเรื่องแก้รายมาตรา โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับจริยธรรมนักการเมือง ถึงขนาดไปยื่นร่างแก้ไขต่อสภาฯแล้ว แต่หลังพรรคร่วมรัฐบาล แสดงท่าทีไม่เห็นด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาล 2 พรรค ออกมาแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา เกี่ยวกับจริยธรรมนักการเมือง ว่า ขณะนี้กำลังพยายามนัดพูดคุยหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลให้ได้ทั้งหมด จะได้ทราบประเด็น ถ้าเห็นด้วยเหมือนกันก็ไปด้วยกัน ถ้าไม่เห็นด้วยเหมือนกันก็ไม่ต้องไป เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ริเริ่มจากพรรคเพื่อไทย แต่มีหัวหน้าพรรคหลายส่วน ไม่สบายใจเรื่องนี้ เราถึงเริ่มดำเนินการว่าอยากจะคุยกัน เช่นเดียวกับที่สภาได้พูดกันในประเด็นนี้ ดังนั้นยังไม่สามารถสรุปได้

          ส่วนที่ชาวบ้านมองว่า ทำไมไม่เร่งแก้ปัญหาปากท้อง ก่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายภูมิธรรม กล่าวว่า รัฐบาลก็พยายามแก้เรื่องปัญหาปากท้องอยู่แล้ว การบริหารราชการแผ่นดินประเด็นมีเต็มไปหมด วันนี้ทุกฝ่ายกำลังทำหน้าที่ทุกด้าน อย่างฝ่ายเศรษฐกิจก็กำลังดูแก้ปัญหากระตุ้นเศรษฐกิจ ฝ่ายที่รับผิดชอบเรื่องน้ำท่วม ก็ดำเนินการอยู่ ไม่ใช่ว่าทุกอย่างหยุดหมดแล้วมาทำเรื่องรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่า การที่พรรคเพื่อไทยเป็นคนประสานพูดคุย ไม่ใช่เป็นการกดดันพรรคร่วมเพื่อทำเรื่องของตัวเอง และมีหลายเรื่องที่ต้องพูดคุยกัน หากคุยกันเห็นไม่ตรงกันในช่วงต้นจะถอยก็ได้ เพราะนี่คือการร่วมมือกันของพรรคร่วมที่ใช้เหตุและผล

#แก้รัฐธรรมนูญ 

#พรรคร่วมรัฐบาล