อิหร่าน ใช้เวที UNGA พร้อมเจรจาโครงการนิวเคลียร์กับชาติมหาอำนาจ แลกกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร

วันนี้, 10:58น.


          สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเรื่องการประชุมสมัชชาแห่งสหประชาชาติ(UNGA)สมัยที่ 79 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐฯว่า ประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเคียน ของอิหร่านได้แถลงต่อที่ประชุม UNGA เมื่อวานนี้(24 ก.ย.67)ว่า อิหร่านพร้อมจะกลับมาเจรจากับชาติมหาอำนาจของโลกซึ่งเคยร่วมเจรจาโครงการนิวเคลียร์อิหร่านปี 2558 คือ สหรัฐฯ รัสเซีย อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส และเยอรมนี เพื่อยุติปัญหาพิพาทเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์กับชาติตะวันตก แลกกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯและประชาคมระหว่างประเทศซึ่งถ้าทุกฝ่ายทำตามเงื่อนต่างๆของข้อตกลงโดยครบถ้วนและโดยสุจริตใจแล้ว การเปิดเวทีพูดคุยกันในประเด็นอื่นๆ จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต



          นายเปเซชเคียน นักการเมืองสายกลาง ซึ่งเข้ารับตำแหน่งในเดือนส.ค.67 วิจารณ์อิสราเอล ซึ่งเป็นคู่ปรับอิหร่านว่า ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในเขตฉนวนกาซา ขอให้ประชาคมระหว่างประเทศกดดันอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสให้ทำข้อตกลงหยุดยิงในเขตฉนวนกาซาและขอให้อิสราเอลยุติการรุกรานเลบานอนทันที ก่อนที่สงครามจะบานปลายไปทั่วทั้งภูมิภาคและทั่วโลก ระบุว่า อิหร่านต้องการสันติภาพสำหรับทุกประเทศ ไม่ต้องการมีปัญหาความขัดแย้งกับประเทศใด พร้อมย้ำจุดยืนอิหร่านต่อต้านสงครามและขอให้มีการเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครน



          ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีในขณะนั้น คือ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศในปี 2561 ให้ถอนชื่อสหรัฐฯออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ซึ่งลงนามในข้อตกลงกับอิหร่านในปี 2558 พร้อมทั้งกลับมาคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอิหร่านซ้ำอีกครั้ง นับตั้งแต่นั้นมา ความพยายามของคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายที่จะให้มีการรื้อฟื้นข้อตกลงฉบับนี้ล้มเหลวเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน



          ข้อตกลงนิวเคลียร์ที่อิหร่านกับ 6 ชาติมหาอำนาจลงนามไว้ในปี 2558 มีสาระสำคัญเช่น จำกัดการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้มีความเข้มข้นไม่เกินร้อยละ 3.67 พร้อมทั้งจำกัดปริมาณแร่ยูเรเนียมในคลังยูเรเนียมเสริมสมรรถนะของอิหร่านให้มีน้ำหนักรวมไม่เกิน 202.8 กิโลกรัม(หรือ 447 ปอนด์) แต่หลังจากสหรัฐฯถอนตัวจากข้อตกลงฉบับนี้ อิหร่านไม่ทำตามข้อตกลงฉบับนี้เช่นกัน พร้อมทั้งเสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้มีความเข้มข้นสูงเกินร้อยละ 20 และมีปริมาณแร่ยูเรเนียมเสริมสมรรถนะสูงเกินข้อกำหนดในข้อตกลง



         ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตก แย่ลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่กลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นพันธมิตรของอิหร่าน บุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2566 เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาสในเขตฉนวนกาซาในเวลาต่อมา นอกจากนี้ อิหร่านได้ให้การสนับสนุนด้านอาวุธ เช่น โดรน แก่รัสเซีย เพื่อใช้ในการสู้รบกับยูเครนด้วย



 



#UNGA



#อิหร่าน



#ข้อตกลงนิวเคลียร์

ข่าวทั้งหมด

X