ไทยเกินดุลการค้า เดือนส.ค.-ยอดส่งออกกลับมาพุ่ง ขยายตัวร้อยละ7

วันนี้, 18:43น.


         สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนส.ค.67 พบว่า การส่งออก มีมูลค่า 26,182 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน จากที่ตลาดคาดโต 6% ขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 25,917 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8.9% ส่งผลให้ในเดือนส.ค.นี้ ไทยเกินดุลการค้า 264.9 ล้านดอลลาร์



          ขณะที่ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.67) การส่งออกของไทย มีมูลค่ารวม 197,192 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 203,543 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5% ส่งผลให้ 8 เดือนแรกปีนี้ ไทยยังคงขาดดุลการค้า 6,351 ล้านดอลลาร์



          สถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าในระยะหลังนั้น ยังไม่มีผลให้ สนค.ปรับเป้าหมายการส่งออกของไทยในปีนี้ โดยยังคงเป้าหมายเดิมที่ 1-2% ที่มูลค่าราว 290,700 ล้านดอลลาร์ และมองว่ามีโอกาสจะขยายตัวได้มากกว่า 2% เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าฟื้นตัว ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อจากประเทศคู่ค้าหลักเพิ่มขึ้น



          นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการ สนค. กล่าวว่า ในเดือนส.ค.นี้ หากพิจารณาการส่งออกเป็นรายกลุ่มสินค้า จะพบว่ามีการขยายตัวในทุกกลุ่มสินค้า ดังนี้  กลุ่มสินค้าเกษตร มีมูลค่า 2,608 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17.5% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัวดี ได้แก่ ยางพารา, ข้าว และผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง



         กลุ่มสินค้าอุตสาหรรมเกษตร มีมูลค่า 2,130 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17.1% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัวดี ได้แก่ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์, อาหารสัตว์เลี้ยง และอาหารทะเลกระป๋อง และแปรรูป



         กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม มีมูลค่า 20,357 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.2% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัวดี ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, เครื่องจักรกล และส่วนประกอบ, เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, เคมีภัณฑ์, เครื่องปรับอากาศ และส่วนประกอบ, ผลิตภัณฑ์ยาง, รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ



         โดยตลาดส่งออกสำคัญที่ขยายตัวได้ดี อันดับ 1 สวิตเซอร์แลนด์ ขยายตัว 175.1% อันดับ 2 ตะวันออกกลาง ขยายตัว 34.6% อันดับ 3 สหภาพยุโรป ขยายตัว 26.4%



          ปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการส่งออกในเดือนส.ค.นี้ ได้แก่ การขยายตัวของการส่งออกสินค้าเกษตร และอาหาร ผลักดันให้การส่งออกในภาพรวมเติบโตได้ดี, ผู้บริโภคในประเทศคู่ค้าหลักจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ นอกจากนี้ ค่าระวางเรือของบางเส้นทางในช่วงครึ่งหลังของเดือนส.ค. เริ่มลดลง



          อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยสำคัญที่กดดันการส่งออก คือ การแข็งค่าของเงินบาท และสภาพอากาศที่มีปริมาณฝนตกหนัก ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรบางชนิดให้เสียหาย



          สำหรับแนวโน้มการส่งออกในปี 2567 กระทรวงพาณิชย์ คาดว่าการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี 2567 จะเติบโตต่อเนื่อง โดยปัจจัยบวกที่สำคัญมาจากสัญญาณการคลี่คลายของภาวะเงินเฟ้อระดับสูงในหลายประเทศ และแนวโน้มการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ซึ่งคาดว่าจะกระตุ้นการบริโภคในตลาดโลก ขณะที่ความต้องการสินค้าเกษตรไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับนโยบายรักษาความมั่นคงทางอาหารของประเทศคู่ค้า และสภาพภูมิอากาศที่ผันผวนทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อปริมาณผลผลิตในหลายประเทศ นอกจากนี้ แนวโน้มการชะลอตัวของอัตราค่าระวางเรือขนส่งสินค้า จะช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ส่งออกไทย



           อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยที่อาจกระทบต่อการส่งออกไทยในระยะถัดไป อาทิ ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความไม่แน่นอนสูง ค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปัญหาอุทกภัยในประเทศ ที่อาจส่งผลต่อปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตร



#ส่งออกไทย



 

ข่าวทั้งหมด

X