'ไบเดน'พบผู้นำเวียดนาม ย้ำความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ความมั่นคงทางไซเบอร์ หวังคานอิทธิพลจีน-รัสเซีย

          สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯและประธานาธิบดีโต เลิมของเวียดนาม พบกันในนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ นอกรอบการประชุมสมัชชาแห่งสหประชาชาติ(UNGA)เมื่อวันพุธ(25 ก.ย.67) เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า หวังคานอิทธิพลประเทศจีนและรัสเซีย เป็นการเยือนสหรัฐฯเป็นครั้งแรกของนายเลิม หลังรับตำแหน่งเมื่อเดือนพ.ค.67

          นายไบเดน กล่าวช่วงเริ่มต้นการประชุมว่า นับตั้งแต่เริ่มปรับความสัมพันธ์เข้าสู่ยุคใหม่ในปีที่แล้ว ประเทศทั้งสองได้ลงทุนครั้งใหญ่ในด้านอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และซัพพลายเชน พร้อมทั้งร่วมมือในด้านความมั่นคงทางระบบไซเบอร์ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พร้อมย้ำจุดยืนของสหรัฐฯว่าให้การสนับสนุนเรื่องเสรีภาพการแล่นเรือและการทำตามหลักแห่งนิติรัฐ หมายถึงวิธีการแก้ไขปัญหาพิพาททางทะเลในทะเลจีนใต้ ระหว่างประเทศจีนกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงเวียดนาม นอกจากนี้ นายไบเดนย้ำถึงคำพูดที่เขาปราศรัยต่อที่ประชุม UNGA เมื่อคืนวันอังคาร(24 ก.ย.67)ว่า ไม่มีอะไรที่จะเกินกำลังความสามารถในการทำงานร่วมกันของทั้งสองประเทศ 

          ด้านนายเลิมแสดงความชื่นชมนายไบเดนที่ร่วมผลักดันให้มีการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีสู่ระดับที่สูงขึ้นในปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้ นายเลิมพบกับตัวแทนผู้บริหารบริษัทเอกชนของสหรัฐฯที่นครนิวยอร์ก รวมถึงบริษัทเมตา ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก สื่อสังคมออนไลน์ชั้นนำของสหรัฐฯ ซึ่งให้คำมั่นจะขยายการลงทุนในเวียดนาม ซึ่งมีประชากร 100 ล้านคน

          นายเลิมขอให้บรรดาผู้นำภาคธุรกิจของสหรัฐฯสนับสนุนความพยายามของเวียดนามในการเสนอให้รัฐบาลสหรัฐฯปลดเวียดนามออกจากรายชื่อสถานะระบบเศรษฐกิจที่ไม่ใช่ตลาด (non-market economy)ซึ่งจะมีผลให้สหรัฐฯยังคงใช้เกณฑ์เดิมในการคำนวณอัตราภาษีต่อต้านการทุ่มตลาดจากสินค้าของเวียดนามที่มีการส่งออกไปสหรัฐฯ พร้อมทั้งขอให้สหรัฐฯยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้าอื่นๆ เพื่อให้สหรัฐฯและเวียดนามสามารถร่วมมือกันในด้านซัพพลายเชนสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

         ก่อนหน้านี้ นายไบเดน ไปเยือนกรุงฮานอยเมื่อปีที่แล้ว พร้อมทั้งลงนามข้อตกลงความร่วมมือเกี่ยวกับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และโครงการทำเหมืองแร่กับเวียดนาม พร้อมทั้งยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตขึ้นมาเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม ถึงแม้ว่าสหรัฐฯรู้สึกกังวลเรื่องปัญหาสิทธิมนุษยชนของเวียดนามก็ตาม

#โจไบเดน

#ผู้นำเวียดนาม

#UNGA