*ราคาน้ำมันโลกขยับขึ้น หลังปริมาณน้ำมันในคลังสำรอง ของสหรัฐฯลดลง*

รอยเตอร์ส รายงานอ้างนายทามัส วาร์กา นักวิเคราะห์น้ำมันของบริษัทพีวีเอ็ม ออยล์ แอสโซซิเอท ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษว่า ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันนี้ หลังมีรายงานว่าคลังน้ำมันของสหรัฐฯลดลง และมีสัญญาณบ่งชี้ว่าการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯเริ่มลดลด หลังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาหลายปี ก่อนหน้านี้ รายงานของสถาบันอเมริกัน ปิโตรเลียม(เอพีไอ) องค์กรภาคเอกชนสหรัฐฯบ่งชี้ว่า ตัวเลขจัดเก็บคลังน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯร่วงลงมากเกินคาด รายงานดังกล่าว มีขึ้นหลังสำนักบริหารข้อมูลสารสนเทศพลังงาน(อีไอเอ)ของรัฐบาลสหรัฐฯคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันในประเทศจะทรุดตัวลงหนัก และทรุดนานเกินคาด

สำหรับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดกรุงลอนดอน ขยับขึ้น 1.48 ดอลลาร์สหรัฐฯขึ้นไปสู่ระดับสูงในรอบ 2 สัปดาห์คือ 66.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ซื้อขายที่ราคา 66.28 ดอลลาร์ ขึ้น 1.40 ดอลาร์ เมื่อเวลา 08.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ ส่วนราคาน้ำมันดิบของสหรัฐฯขยับขึ้น 1.50 ดอลลาร์ไปอยู่ที่ 61.64 ดอลลาร์ สำหรับคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯร่วงลง 6.7 ล้านบาร์เรล ไปอยู่ที่ 473.1 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ก่อน เทียบกับการประมาณการณ์ของนักวิเคราะห์ว่าจะลดลงเพียง 1.72 ล้านบาร์เรล ก่อนหน้านี้ อีไอเอคาดว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐฯจะลดลง 160,000 บาร์เรลต่อวันในปีหน้า เทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะสูงขึ้น คาดว่าการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายปีหน้า นอกจากนี้อีไอเอ ได้เพิ่มตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบทั่วโลกในปีหน้าจะเพิ่มอีก 20,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 1.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นแนวโน้มที่ไม่สดใสนักสำหรับพ่อค้าน้ำมัน

แม้ว่าราคาน้ำมันจะขยับขึ้นในสัปดาห์นี้ แต่นักวิเคราะห์จากบริษัทเอบีเอ็น อัมโร ระบุในรายงานประจำเดือนนี้ว่าราคาน้ำมันไม่น่าจะขยับขึ้นมากไปกว่านี้อีกเนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาดโลกในช่วงนี้ เนื่องจากการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯอยู่ในระดับสูง ขณะเดียวกัน กลุ่มโอเปกยังไม่เปลี่ยนแปลงโควตาการผลิตของสมาชิกที่ระดับ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะเดียวกันสมาชิกบางรายของกลุ่มโอเปกอาจจะผลิตเกินโควตาด้วย  จะส่งผลให้สถานการณ์น้ำมันดิบล้นตลาดโลกจะยังดำเนินต่อไปอีกหลายเดือน/20.40 น.