ปธ.หอการค้าไทย เตรียมขอพบผู้ว่าธปท.เหตุเงินบาทแข็งค่า-ต่างชาติขายหุ้นไทย กว่า 5 พันล้านบาท

             นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย ในฐานะประธานที่ประชุม กกร. กล่าวว่า เตรียมทำจดหมายขอพบผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อหารือประเด็นเรื่องค่าเงินบาท และการพิจารณาลดดอกเบี้ย เนื่องจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วเพิ่มแรงกดดันต่อภาคการส่งออก ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาแข็งค่าราว 12% มากกว่าค่าเงินอื่นในภูมิภาค กลายเป็นปัจจัยลบต่อความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตรและอาหารที่ใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก ทั้งนี้ หากค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี อาจทำให้รายได้ในรูปเงินบาทของผู้ส่งออกกระทบได้ราว 1.8-2.5 แสนล้านบาท

          นอกจากนั้น กกร. อยู่ระหว่างการปรับรายละเอียดข้อเสนอในสมุดปกขาว โดยคาดว่าวันนี้จะได้ข้อสรุป และในวันพรุ่งนี้จะทำหนังสือขอพบนายกรัฐมนตรี เพื่อจะนำเสนอต่อไป

          ดัชนี SET ปิดวันนี้ 1,451.40 จุด ลดลง 13.26 จุด (-0.91%) มูลค่าซื้อขาย 57,926.56 ล้านบาท  ต่างชาติขายสุทธิ 5,414.36 ล้านบาท

          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงมากกว่า 2% ในวันนี้ (2 ต.ค.) โดยนักลงทุนเทขายเนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดยิ่งขึ้นในตะวันออกกลาง ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 37,808.76 จุด ลดลง 843.21 จุด

          นักลงทุนยังคงขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของจีน ดัชนีฮั่งเส็งปิดที่ระดับ 22,443.73 จุด เพิ่มขึ้น 1,310.05 จุด  ล่าสุด กรุงปักกิ่งกลายเป็นเมืองขนาดใหญ่ล่าสุดของจีนที่ประกาศผ่อนคลายกฎระเบียบสำหรับผู้ซื้อบ้าน หลังจากรัฐบาลกลางของจีนได้เรียกร้องให้มีการใช้มาตรการพยุงตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังชะลอตัวลงในขณะนี้ ความเคลื่อนไหวของกรุงปักกิ่งมีขึ้นหลังจากเมืองขนาดใหญ่อีก 3 แห่งของจีน ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และเซินเจิ้น ได้พากันประกาศผ่อนคลายกฎระเบียบการซื้อบ้านไปแล้ว

          ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.50% สู่ระดับ 6.6% โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงิน และสนับสนุนความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัวลงในขณะนี้

          เงินบาทเย็นนี้ปิดตลาดที่ระดับ 32.75/76 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิด ตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 32.55/60 บาท/ดอลลาร์

          ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยว่า ช่วงเดือนที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าขึ้นถึงเกือบ 5% ซึ่งแข็งค่ามากที่สุดในภูมิภาค เป็นผลจากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ลดดอกเบี้ย 50 bps ในการประชุมเดือนกันยายน

          นอกจากนี้ ราคาทองคำก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า รวมถึงการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และการเลือกหัวหน้าพรรค Liberal Democratic Party (LDP) ของญี่ปุ่น

#หุ้นไทย

#เงินบาทอ่อนค่า