+++สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 6.4 ริกเตอร์ มีจุดศูนย์กลางอยู่ลึกใต้ผิวดิน 23.9 กม. ห่างจากเมืองเตปัน เดอ กาเลียนา ในรัฐเกร์เรโร ไปทางทิศเหนือ 15 กม. แรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ชัดถึงกรุงเม็กซิโกซิตี ที่อยู่ห่างออกไป 277 กม. สร้างความแตกตื่นตกใจแก่ประชาชนที่อยู่บนอาคารสูงในหลายรัฐ เนื่องจากอาคารสั่นไหว ทำให้ต้องรีบหนีออกจากอาคาร ลงมาอยู่ตามท้องถนนหรือที่โล่ง เพื่อความปลอดภัย เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย นอกจากไฟฟ้าดับในหลายเมือง รายงานระบุด้วยว่า ขณะเกิดแผ่นดินไหว นายหลุยส์ วิเดกาเรย์ รัฐมนตรีคลังเม็กซิโก กำลังกล่าวแถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา ในกรุงเม็กซิโกซิตี การแถลงต้องยกเลิกกลางคัน และบรรดาสมาชิกรัฐสภาต้องอพยพออกจากอาคาร ขณะที่ สำนักงานวิทยาแผ่นดินไหวแห่งชาติเม็กซิโก รายงานว่า หลังจากแผ่นดินไหวรุนแรงสงบลงได้ไม่นาน เกิดแรงไหวติดตาม หรือ อาฟเตอร์ช็อกอย่างน้อย 2 ระลอก โดยครั้งรุนแรงสุดวัดได้ 5.1 และ 4.9 ริกเตอร์ ตามลำดับ
+++สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ รายงานว่า สภาพอากาศที่แปรปรวนเป็นอุปสรรคในการค้นหาผู้สูญหายอีก 35 คนจากเหตุเรือเฟอร์รี่เซวอลล่มเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน ทำให้เกิดคลื่นสูง นักประดาน้ำต้องหยุดพักการกู้ภัย หากสภาพอากาศดีขึ้น นักประดาน้ำจะเข้าไปค้นหาภายในตัวเรือ โดยจะเน้นการค้นหาในบริเวณด้านหน้าของดาดฟ้าชั้นที่ 3 และ 4,ห้องผู้โดยสาร และช่องทางเดินหลักๆ รวมถึงที่ด้านหลังของดาดฟ้าชั้น 4 แผนการค้นหาจนถึงวันเสาร์นี้คือ จะค้นหาซ้ำตามช่องและซอกต่างๆ 64 ช่อง รวมถึงจุดสาธารณะอีก 47 แห่ง เช่นห้องน้ำและร้านค้า นอกจากนี้ นักประดาน้ำวางแผนจะขยายพื้นที่ค้นหาไปยังห้องบรรทุกสินค้าด้วย หากไม่พบคนที่สูญหายภายในวันเสาร์นี้ นักประดาน้ำจะใช้เวลาอีก 5 วันเพื่อสำรวจช่องและซอกต่างๆทั้ง 111 แห่งบนเรือเซวอลที่อาจจะสำรวจไม่ละเอียดในช่วงแรก หลังจากพบศพผู้เสียชีวิตแล้วรวม 269 ศพ
+++อัยการ เตรียมตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาและละเมิดกฎหมายพาณิชยนาวี ต่อนายคิม ฮัน-ซิคประธานบริหารของบริษัทชองแฮจินมารีน โค.ซึ่งเป็นเจ้าของเรือเฟอรีเซวอล หลังจากนายคิมถูกจับกุมตัวได้ที่บ้านพักทางตอนใต้ของกรุงโซลและถูกนำตัวเข้าคุก ในเมืองม็อคโปเมืองท่าทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เนื่องจากข้อกล่าวหาที่ว่านายคิมมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ก็เพิกเฉยเรื่องการบรรทุกสินค้าเกินความสามารถของเรือเซวอลซึ่งถูกมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรืออับปางเมื่อวันที่16 เม.ย.เป็นโศกนาฏกรรมที่เลวร้ายที่สุดของประเทศ ผลการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า เรือเฟอรีเซวอลบรรทุกสินค้าเกินความสามารถของเรือถึง3 เท่า
+++สถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงในยูเครน ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ยืนยันระหว่างพบปะหารือกับประธานาธิบดีดิดิเยร์ เบอร์คัลเตอร์ ของสวิตเซอร์แลนด์ที่กรุงมอสโกว์ว่า รัสเซียได้สั่งถอนกำลังทหารออกจากชายแดนของยูเครนแล้ว และเรียกร้องให้ทางการยูเครนยุติปฏิบัติการเพื่อลงโทษนักเคลื่อนไหวทางภาคใต้และภาคตะวันออกของประเทศโดยทันที
+++ขณะที่ สหรัฐ กับนาโต้ ยืนยันทหารรัสเซียยังไม่ได้ถอนออกจากชายแดนติดกับยูเครน นายอันเดอร์ส โฟกห์ ราสมุสเซน เลขาธิการนาโต้ เปิดเผยว่า ยังไม่เห็น ส่งงบ่งชี้ใดๆว่า รัสเซียจะกระทำเช่นนั้นแล้วจริงๆ
+++ขณะที่ นายเดนิส ปูชิลิน แกนนำชาวยูเครนฝักฝ่ายรัสเซียในเมืองโดเนสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน กล่าวว่า กลุ่มฯจะเดินหน้าการจัดทำประชามติประกาศเอกราชจากยูเครนในวันที่ 11 พ.ค.โดยไม่สนใจการเรียกร้องของประธานาธิบดีปูติน ที่ต้องการให้เลื่อนการลงมติออกไปก่อน ความเคลื่อนไหวนี้ยิ่งจะซ้ำเติมวิกฤติในยูเครนหนักยิ่งขึ้น แม้ว่านายปูติน จะสร้างความประหลาดใจด้วยการเรียกร้องให้นักเคลื่อนไหวเลื่อนการทำประชามติออกไป พร้อมทั้งสนับสนุนการเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนในวันที่ 25 พ.ค. มีรายงานว่า วันนี้ ประธานาธิบดีปูติน อาจเข้าร่วมพิธีสวนสนามของทหารในวันที่ 9 พ.ค. เนื่องในวันแห่งชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยพิธีสวนสนามจะจัดขึ้นบริเวณจัตุรัสแดง หลังจากนั้นอาจจะเดินทางต่อไปยังคาบสมุทรไครเมีย หลังจากที่ผนวกไครเมียเข้ากับรัสเซีย
+++ไปที่ซีเรีย กลุ่มต่อต้านซีเรีย วางระเบิดโรงแรมคาร์ลตัน โรงแรมหรูแห่งหนึ่งในเมืองอะเลปโป ทางภาคเหนือของประเทศ ที่ถูกดัดแปลงเป็นฐานทัพของกองกำลังรัฐบาล ต่อมา กลุ่มอิสลามิก ฟร้อนท์ กลุ่มกบฏที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดของซีเรีย ระบุทางทวิตเตอร์ว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว มีทหารเสียชีวิตจำนวนมาก กองทัพซีเรียได้ปะทะกับกลุ่มก่อการร้าย หลังคนร้ายขุดเจาะอุโมงค์เข้ามาใกล้กับโรงแรมและกดชนวนระเบิด ล่าสุดมีรายงานว่า ฝ่ายรัฐบาลควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว
+++นายกรัฐมนตรีมานโมฮัน ซิงห์ ของอินเดีย จะลาออกในวันที่ 17 พ.ค.นี้ หลังพรรคพันธมิตรยูไนเต็ด โปรเกรสซีฟ ที่มีพรรคคองเกรส เป็นแกนนำ ทำหน้าที่บริหารประเทศมา 2 สมัยเป็นเวลา 10 ปี ซึ่งตรงกับวันที่คณะกรรมการการเลือกตั้งของอินเดียจะประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร นายซิงห์ จะแถลงอำลาต่อประชาชนทั่วประเทศ ผลโพลล์บ่งชี้ว่า พรรคภาระติยะ ชะนะตะ พรรคแกนนำฝ่ายค้าน จะชนะการเลือกตั้งและนายนาเรนทรา โมดี จะก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ในขณะที่พรรคคองเกรส นำโดยนายราหุล คานธี ทายาทตระกูลคานธี เผชิญกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่สุด หลังความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นและภาวะเงินเฟ้อ
+++ประธานาธิบดีกู๊ดลัค โจนาธาน ของไนจีเรีย กล่าวว่า การที่กลุ่มติดอาวุธโบโกฮารามลักพาตัวเด็กนักเรียนหญิงกว่า 200 คนอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ และจะเป็นจุดเริ่มต้นในการขจัดกลุ่มก่อการร้ายให้หมดไปจากไนจีเรีย เขาได้ขอบคุณประเทศจีน สหรัฐ อังกฤษและฝรั่งเศส ที่เสนอให้การช่วยเหลือในการช่วยติดตามหาเด็กหญิงกลุ่มนั้น การลักพาตัวเด็กกลุ่มนี้เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนสร้างความโกรธแค้นให้กับประชาชนทั่วโลก ด้านนางสาวมาลาลา ยูซาฟไซ นักเรียนหญิงชาวปากีสถานซึ่งรอดชีวิตจากการถูกยิงของกลุ่มตอลีบัน กล่าวว่า คนทั่วโลกไม่ควรนิ่งเฉยในเรื่องนี้ ระบุว่าหากผู้คนนิ่งเฉย การลักพาตัวจะแพร่ระบาดไปทั่วโลก
+++เจ้าหน้าที่ตำรวจฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลฟิลิปปินส์กำลังสอบสวนชาวประมงจีนที่ถูกควบคุมตัว11 คนฐานรุกล้ำน่านน้ำฟิลิปปินส์อย่างผิดกฎหมายเพื่อจับเต่าใกล้สูญพันธุ์แม้ว่าจีนจะเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวพวกเขาก็ตามทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวชาวประมงและยึดเรือของพวกเขาซึ่งบรรทุกเต่าทะเลสีเขียวจำนวนมากกว่า350 ตัวในพื้นที่พิพาทที่เรียกว่าแนวโขดหินฮาล์ฟ มูน โชล จุดชนวนให้เกิดกรณีพิพาทครั้งล่าสุดระหว่าง2 ประเทศเอเชียในทะเลจีนใต้ที่เปราะบางจีนกดดันรัฐบาลฟิลิปปินส์ให้ปล่อยตัวชาวประมง และคืนเรือพร้อมเตือนรัฐบาลฟิลิปปินส์ ว่าอย่ากระทำการยั่วยุมากไปกว่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายความสัมพันธ์ทวิภาคีให้เลวรายกว่านี้แต่เมื่อถูกถามว่าฟิลิปปินส์จะปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของจีนหรือไม่ นายอาลัน ปูริซิมา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของฟิลิปปินส์กล่าวว่า ชาวประมงจะถูกสอบสวนเพื่อพิจารณาว่าพวกเขาก่ออาชญากรรมหรือไม่ซึ่งรวมทั้งเข้าน่านน้ำผิดกฎหมายและจับสัตว์น้ำใกล้สูญพันธุ์
+++ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดตลาดแบบผสมผสาน แนสแดค ยังลงต่อเนื่อง แม้กลุ่มเทคโนโลยีจะฟื้นตัวขึ้นบ้างเล็กน้อย ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 32.43 จุด ปิดที่ 16,570.97 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 2.58 จุด ปิดที่ 1,875.63 จุด แนสแดค ลดลง 16.18 จุด ปิดที่ 4,051.50 จุด
+++ราคาน้ำมันโลก ลดลง จากการขายทำกำไรของนักลงทุน สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐ งวดส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 51 เซนต์ ปิดที่ 100.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ลดลง 9 เซนต์ ปิดที่ 108.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ราคาทองคำ ปรับลดเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน หลังยอดผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานรายสัปดาห์ ลดลง กระตุ้นให้นักลงทุนหันไปเก็งกำไรในสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ขณะเดียวกันก็ยังเกาะติดสถานการณ์ในยูเครนอย่างใกล้ชิด โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 1.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,287.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์