ตลอดทั้งคืน เจ้าหน้าที่ติดตามเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำ เมื่อคืนนี้ (3 ต.ค.67) คนร้ายมีอาวุธบุกเข้าไปในบ้านประชาชน ภายในซอย อินทามระ 29 แยก 1 และล่าสุด อยู่ระหว่างการหลบหนี
รายงานระบุว่า คนร้ายหลบหนี มาจากซอย อินทามระ 29 แยก 3 ยิงปืนเปิดทางหลบหนี เนื่องจาก ซอยนี้เป็นซอยตัน และปืนข้ามกำแพงไปที่พื้นที่โล่ง จากนั้นหลบหนีไปที่ซอย อินทามระ 29 แยก 1 เข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุ ในบ้านนี้มีคนพักอยู่สามคน แม่เดินออกมาจากบ้านได้ และบอกว่าในบ้านมีลูกชายอีก 2 คน อายุ 30 ปี และ 31 ปี รายงานระบุว่า เป็นหมอ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รรท.ผบ.ตร.) เดินทางมาที่เกิดเหตุ สั่งการให้ตำรวจคลี่คลายสถานการณ์นี้ให้ได้ ด้วยความเรียบร้อยปลอดภัย
ในระหว่างที่ตำรวจปิดล้อม POLICE TV สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานว่า พ.ต.ท.วรภัทร สุขไทย รอง ผกก.ป.สน.บางซื่อ เปิดเผยว่า ตำรวจหลาย 10 นาย ไม่สามารถบุกเข้าไปภายในบ้านได้ เนื่องจาก เกรงว่า ผู้ก่อเหตุจะทำอันตรายคนที่อยู่ในบ้าน ในช่วงปิดล้อมจับกุม คนร้ายยิงออกมา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 1 นาย
เมื่อตำรวจประเมินสถานการณ์สักระยะ แน่ใจว่า คนร้ายไม่ได้อยู่ในบ้านแล้ว จึงนำกำลังเข้าไปช่วยทั้งสองคนภายในบ้านพัก ทั้งสองคนปลอดภัย หลบอยู่ในห้อง
ตำรวจสอบสวนกลาง เผยแพร่ภาพคนร้าย คือ นายสันติ หลบหนีการจับกุมคดีลักทรัพย์ ในพื้นที่สน.เตาปูน
เวลา 00.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถอนกำลังออกจากจุดเกิดเหตุ
เวลาไล่เลี่ยกัน ประมาณ เวลา 00.30 น. ภรรยาของนายสันติ ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืน ขนาด 9 มม. จ่อหัวตัวเอง ขู่จะยิงตัวตาย หลังเกิดภาวะเครียดจากการที่สามี ถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมจับกุม โดยเหตุดังกล่าวอยู่ที่อาคารร้างแห่งหนึ่ง บริเวณแยกสุทธิสาร ริมถนนวิภาวดี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่นายสันติ ถูกปิดล้อมไม่ไกลมากนัก เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจรจาเกลี่ยกล่อมให้สงบสติอารมณ์แล้ววางปืนเดินออกมา นายตี๋ เจ้าของค่ายมวยที่นายสันติ เคยทำงานอยู่ พยายามพูดว่า ไม่ต้องเครียดคดีนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยทำอะไรให้คิดถึงลูกเยอะๆ หากเป็นอะไรไปแล้วลูกจะอยู่อย่างไร โดยใช้เวลาเกลี่ยกล่อมนานกว่า 1 ชั่วโมง จนเวลา 01.45น. ภรรยาของนายสันติ ยอมสงบ ออกมาอยู่บริเวณหน้าตึกร้างก่อนจะหยิบผ้าห่มคลุมหน้า และเดินขึ้นรถตำรวจไปที่โรงพัก
01.50น.หลังจากที่ภรรยาของนายสันติ ยอมออกมาจากตึกร้างและขึ้นรถตำรวจไป เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อภรรยาของนายสันติ ใช้อาวุธปืนจี้ตำรวจที่เป็นคนขับและบังคับให้ตำรวจขับรถพาหนีไป ทำให้ตำรวจที่เหลือได้ไล่ติดตามไปทาง ถ.วิภาวดีรังสิต ขาออก เข้าเขตพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ยูเทิร์นกลับรถหน้ามหาวิทยาลัยกรุงเทพ ใช้ ถ.พหลโยธิน ขาเข้า จากนั้นเปลี่ยนเส้นทางใช้ ถ. รังสิต-นครนายก ขาออก ไปทางนครนายก
03.24น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ให้ข้อมูลว่า ตำรวจสัญญาณ GPS ทราบว่ารถตร.191ที่ถูกจี้ ได้ใช้เส้นทาง ถ.รังสิต-นครนายก ขาออก ไปขึ้นด่านธัญบุรี ถ.มอเตอร์เวย์สาย 9 และไปจอดแถววังน้อย คนร้าย ลงจากรถและหนีเข้าไปในพงหญ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจขอกำลังจากตำรวจภูธรภาค 1 ช่วยติดตาม ส่วนตำรวจที่ถูกจี้ ปลอดภัย
05.41น. จส.100 สอบถาม สภ.วังน้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังอยู่ระหว่างปิดล้อมพื้นที่ ทางหลวง 352 เส้นทาง ธัญบุรี-วังน้อย เป็นทุ่งหญ้าสูง ยังไม่พบตัวคนร้าย
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ พบตัวแล้ว ใช้ระยะเวลาเกลี้ยกล่อม จนยอมมอบตัว นำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจาก มีอาการบาดเจ็บ และร้องไห้ตลอด
07.08น พ.ต.อ.สมเจตต์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 06.00 น. เจ้าหน้าที่ค้นหาในพื้นที่ พบผู้หญิงคนดังกล่าวนั่งซ่อนตัวอยู่ จึงให้มอบตัว หญิงคนดังกล่าว เดินออกมามอบตัว และใช้อาวุธปืนจี้ตัวเองไว้ด้วย จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงนำตัวขึ้นรถ นำตัวกลับมาที่นครบาลแล้ว
ช่วงบ่ายวันนี้ เวลา 13.30 น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะเดินทางมาประชุมความคืบหน้าคดีที่ สน.บางซื่อ
#ไล่ล่าคนร้าย
#ซอยอินทามระ29
Cr.ขอบคุณข้อมูล-ภาพ POLICE TV สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,ตำรวจสอบสวนกลาง,มูลนิธิร่วมกตัญญู