เตือนน้ำเพิ่มขึ้น! เขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำเพิ่มไม่เกิน 2,500 ลบ.ม./วินาที รับน้ำเหนือ

วันนี้, 04:59น.


          การปรับเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา เนื่องจาก น้ำเหนือจำนวนมากจะไหลลงมา ปัจจุบันปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณ 2,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที คาดการณ์สถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ในช่วง 1 - 7 วันข้างหน้า ที่สถานีวัดน้ำ C.2 จ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 2,200 - 2,500 ลบ.ม./วินาที ก่อนจะไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา โดยการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ตามศักยภาพของคลองชลประทาน 


          คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เห็นชอบให้กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันไดผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราไม่เกิน 2,500 ลบ.ม./วินาที แต่เพื่อลดผลกระทบพื้นที่ด้านท้าย กรมชลประทานจะควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในอัตราไม่เกิน 2,400 ลบ.ม./วินาที ให้สามารถรองรับมวลน้ำเหนือ น้ำฝน ที่จะไหลลงมาสมทบในระยะนี้ได้ ซึ่งการระบายน้ำในอัตราดังกล่าว จะส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาและพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 60-70 เซนติเมตร อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน บริเวณ


-คลองโผงเผง จ.อ่างทอง,คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อยบริเวณ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา


-วัดสิงห์ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี 


-อ.พรหมบุรี อ.เมือง จ.สิงห์บุรี


-วัดไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง


-ต.โพนางดำตก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท


-วัดเสือข้าม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี


-อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง 




          กรมชลประทาน ทำหนังสือแจ้งเตือนไปยังจังหวัดในพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนถึงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม เฝ้าระวังระดับน้ำและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะๆ ต่อไป


          ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยาว่า ตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมด้านตะวันออกของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีลักษณะอากาศแปรปรวนเกิดขึ้น โดยมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกและมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ นั้น 


         เมื่อวานนี้(4 ต.ค.67)  กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา 


-สถานี C2 อ.เมืองนครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,282 ลบ.ม./วินาที แนวโน้ม:เพิ่มขึ้น ระดับน้ำ:เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันพฤหัสบดี(3 ต.ค.67) 20 ซม. แต่ยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 2.18 ม.


-สถานี C13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,999 ลบ.ม/วินาที แนวโน้ม : เพิ่มขึ้น


ระดับน้ำท้ายเขื่อน : เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันพฤหัสบดี 31 ซม. แต่ยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 1.84 ม.


          เนื่องจากปัจจุบันมีปริมาณฝนตกหนักทางพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำ กรมชลประทาน จึงจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาแบบขั้นบันได ประมาณชั่วโมงละ 20 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่เวลา 06.00 น.จนถึงอัตราไม่เกิน 2,000 ลบ.ม./วินาที ในเวลา 09.00 น.


 


#เขื่อนเจ้าพระยา


#เพิ่มการระบายน้ำ


Cr.ขอบคุณข้อมูล-ภาพ กรมชลประทาน


 
ข่าวทั้งหมด

X