รรท.ผบ.ตร. ย้ำดำเนินคดีทุกคน เหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา-เยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บ

วันนี้, 16:34น.


       หลังเกิดเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ในวันนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) เดินทางไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ถ.พหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจนักเรียนจำนวน 2 คน ที่เข้ารับการรักษาตัว ได้แก่ นักเรียนหญิงชั้น ป.1 อายุ 7 ปี และนักเรียนหญิงชั้น ป.3 อายุ 9 ปี การรักษาเป็นไปตามแผนและอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ด้าน รรท.ผบ.ตร.ได้พูดคุยสอบถามและให้กำลังใจผู้ปกครองของเด็กหญิงทั้ง 2 คน พร้อมมอบกระเช้าของเยี่ยมให้กับผู้ปกครองด้วย



          จากนั้น รรท.ผบ.ตร.ได้ไปประชุมติดตามคดีไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ขณะนี้ถือคดีมีความคืบหน้าไปกว่าร้อยละ70 แล้ว ยืนยันจะไม่ให้การสืบสวนสอบสวนมีช่องว่างแม้แต่น้อย และจะไม่ปล่อยให้คดีนี้ออกไปในทิศทางที่ไม่ดีไม่งาม จะต้องตรงไปตรงมา ใครผิดว่าไปตามผิด และต้องดำเนินคดีทุกข้อหาที่เกี่ยวข้องตามพฤติการณ์ที่ปรากฏ



          เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สภ.คูคต ได้แจ้งข้อหากับผู้ต้องหาไปแล้ว 3 คน ได้แก่ คนขับรถทัวร์คันเกิดเหตุ, เจ้าของรถทัวร์ (ที่มีชื่อเป็นผู้ครอบครองรถ), และเจ้าของบริษัทรถทัวร์ และอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการกับกลุ่มบุคคลที่อาจเข้าข่ายกระทำความผิด เช่น เจ้าของรถทัวร์คันอื่นๆ ที่เข้าข่ายกระทำความผิด, วิศวกร, เจ้าหน้าที่ขนส่งผู้ตรวจสอบรถ, ร้านค้าผู้ประกอบการที่ติดตั้งก๊าซ โดยแต่ละกลุ่มจะเข้าข่ายความผิดฐานใดบ้าง ยังต้องรอผลรายงานการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายสัปดาห์หน้า





          จากนั้นก็จะส่งผลให้พนักงานสอบสวนไปประกอบกับพยานหลักฐานต่างๆ แล้วจะให้ระดับกองบัญชาการตำรวจภูธรจังหวัด ร่วมกับสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน และฝ่ายสอบสวนพิจารณาหลักฐานร่วมกันในรูปแบบคณะทำงานเพื่อให้เกิดความรอบคอบ ว่าแต่ละกลุ่มบุคคลเข้าข่ายกระทำการโดยประมาท หรือจงใจ หรือดำเนินการผิด พ.ร.บ.รถยนต์ฯ, พ.ร.บ.ขนส่งทางบกฯ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 ก็จะดำเนินคดีไปตามพฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ขนส่ง ที่จะต้องพิจารณาว่ามีความผิดตามกฎหมายของ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท.หรือไม่ ซึ่งจะต้องสรุปผลและส่งรายงานภายใน 30 วัน  



          สำหรับอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บ ยังคงอยู่ในความดูแลของแพทย์ คาดว่าต้องใช้ระยะเวลารักษาตัวอีกไม่ต่ำกว่า 1 เดือน และได้พูดคุยกับครอบครัวน้องๆ ยืนยันว่าทางตำรวจจะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมา





          สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ ออกแถลงการณ์อาการของเด็กหญิงอายุ 14 ปี ว่าบาดแผลไฟไหม้โดยรวมดีขึ้น ตอบสนองการรักษาดี ไม่พบการติดเชื้อหรือปัญหาข้อติดยึด สามารถทำกายบริหารยืดเหยียดข้อไหล่ ข้อศอกได้ และทำกิจกรรมถักเชือกเพิ่มการใช้งานของข้อมือและนิ้วมือ แต่ยังต้องเฝ้าระวังบาดแผลแขนซ้าย ส่วนสภาพจิตใจอารมณ์คงที่ แต่ก็ยังต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ



#รถบัสไฟไหม้



 

ข่าวทั้งหมด

X