กระทรวงการคลังของจีน เปิดเผยในวันนี้ (12 ต.ค.67) ว่าจะเพิ่มการออกตราสารหนี้ของรัฐบาล เพื่อเป็นเงินอุดหนุนให้กับผู้มีรายได้น้อย สนับสนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์ และเติมเงินทุนของธนาคารของรัฐ เพื่อผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยจะมีการออกมาตรการต่อต้านภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเพิ่มเติมในปีนี้ต่อไป นายหลัน ฝออัน รัฐมนตรีคลังของจีน เปิดเผยว่า รัฐบาลกลางมีพื้นที่มากพอที่จะก่อหนี้เพิ่ม
โดยในการประชุมผู้นำระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ในเดือนกันยายน คณะกรรมการกรมการเมืองมีข้อแนะนำให้ออกมาตรการเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นจีนแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ภายในไม่กี่วันหลังจากการประชุม แต่ปรับตัวลดลง เนื่องจากยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการใช้จ่ายของรัฐบาล ทำให้มีความวิตกกังวลเพิ่มขึ้น แม้จะมีรายงานว่า รัฐบาลวางแผนที่จะออกพันธบัตรรัฐบาลพิเศษมูลค่าประมาณ 2 ล้านล้านหยวนในปี 2567 ซึ่งครึ่งหนึ่งของเงินจำนวนนี้จะถูกนำไปใช้ในการช่วยเหลือรัฐบาลท้องถิ่นในการจัดการกับปัญหาหนี้สิน ในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งจะเป็นการอุดหนุนการซื้อเครื่องใช้ในบ้านและสินค้าอื่น ๆ รวมถึงให้เงินช่วยเหลือรายเดือนประมาณ 800 หยวนต่อเด็กหนึ่งคนแก่ทุกครอบครัวที่มีบุตรสองคนขึ้นไป
นอกจากนี้จีนกำลังพิจารณาอัดฉีดเงินทุนมากถึง 1 ล้านล้านหยวนให้กับภาคการธนาคาร เพื่อเพิ่มศักยภาพในการสนับสนุนเศรษฐกิจ ผ่านทางการออกพันธบัตรรัฐบาลใหม่ ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา
ธนาคารพาณิชย์ของรัฐรายใหญ่ที่สุด 4 แห่งประกาศในวันนี้ ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ค้างชำระตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป โดยจะปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้จำนองลงต่ำกว่าระดับดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ถึงร้อยละ 0.30 สอดคล้องกับคำสั่งของธนาคารกลางจีนในเดือนกันยายน เพื่อลดภาระสินเชื่อจำนองของเจ้าของบ้าน กระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ และความต้องการภายในประเทศที่ซบเซา เป็นแรงกดดันด้านภาวะเงินฝืดอย่างรุนแรง เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ตกต่ำ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่อ่อนแอ ซึ่งเผยให้เห็นถึงการพึ่งพาการส่งออกมากเกินไปในสภาพแวดล้อมการค้าโลกที่ตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น
…
#เศรษฐกิจจีน
#ภาวะเงินฝืด