การซ้อมรบครั้งใหญ่ของกองทัพภาคตะวันออกของจีนในบริเวณโดยรอบของไต้หวันในวันนี้ (14 ต.ค.) ทำให้กองทัพไต้หวันยกระดับการเฝ้าระวัง พร้อมระบุว่า การที่ จีนซ้อมรบโดยรอบเกาะไต้หวันว่า เป็นการยั่วยุทางทหารอย่างไร้เหตุผล แต่สถานการณ์โดยทั่วไปเช่น ระบบจราจราทางอากาศและทางเรือของไต้หวันดำเนินการได้ตามปกติ ไม่มีผลกระทบ ขณะที่สหรัฐฯ พันธมิตรของไต้หวันเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
นางเหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่าปัญหาเรื่องไต้หวัน ไม่อาจใช้วิธีการเจรจาทางการทูต เพิ่มเติมว่า เบื้องต้นทุกคนต้องเข้าใจว่าเรื่องเอกราชของไต้หวันกับเรื่องสันติภาพในบริเวณช่องแคบไต้หวัน แยกเป็น 2 ประเด็น ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน โดยเฉพาะประเด็นการยุยงปลุกปั่นให้มีการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องเอกราชสำหรับไต้หวันจะต้องได้รับการตอบโต้จากจีนอย่างแน่นอน นางเหมาแสดงความเห็นเรื่องนี้ระหว่างการแถลงข่าวที่กระทรวงการต่างประเทศในกรุงปักกิ่งในวันนี้และนักข่าวได้สอบถามเรื่องกองทัพจีนซ้อมรบในพื้นที่โดยรอบของไต้หวันในระยะนี้ นอกจากนี้ นางเหมากล่าวถึงสหรัฐฯ พันธมิตรสำคัญของไต้หวันว่าจะต้องทำตามนโยบายจีนเดียว คือให้สหรัฐฯติดต่อเจรจากับประเทศจีนโดยตรง ให้หยุดขายอาวุธให้กับไต้หวัน ซึ่งเป็นเพียงมณฑลหนึ่งของจีน
จีนยังได้ขอให้สหรัฐฯหยุดส่งเรือรบแล่นผ่านบริเวณช่องแคบของไต้หวัน ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณที่ไม่ถูกต้อง ทำให้คนบางกลุ่มในไต้หวันเคลื่อนไหวผิด ถึงขนาดคิดเรียกร้องเอกราช ทั้งนี้ นางเหมาวิจารณ์จุดยืนของสหรัฐฯ หลังทางการสหรัฐฯระบุในแถลงการณ์ในวันนี้ว่า สหรัฐฯเฝ้าติดตามการซ้อมรบของจีนอย่างใกล้ชิด
ด้านสำนักกิจการไต้หวันของจีนประกาศขึ้นบัญชีดำนายพูมา เฉิน สส.พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พรรครัฐบาลและผู้ก่อตั้งองค์กร คูมา อคาเดมี (Kuma Academy) ที่ตั้งเมื่อปี 2564 เพื่อสนับสนุนการเรียกร้องเอกราช พร้อมนายโรเบิร์ต เต๋า นักธุรกิจด้านเทคโนโลยีที่สนับสนุนการเงินแก่องค์กรนี้ ห้ามทั้งสองคนเดินทางเข้าประเทศจีน ฮ่องกงและมาเก๊า และห้ามบุคคลทั้งสองทำงานร่วมกับองค์กรและประชาชนในประเทศจีน
#จีนไต้หวัน
#ซ้อมรบ
#ขึ้นบัญชีดำ