แฮร์ริส ยังขึ้นนำทรัมป์ เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

          ผลโพลล์ล่าสุดจากสำนักข่าวรอยเตอร์/อิปซอสส์เปิดเผยเมื่อวานนี้ (15 ต.ค.) ว่า นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ยังคงมีคะแนนนิยมนำ นายโดนัลด์ ทรัมป์  อดีตปธน.จากพรรครีพับรีกัน แม้ห่างกันแค่ 3% เท่านั้น โดยนางแฮร์ริสได้คะแนนสนับสนุน 45% ต่อ 42% ในศึกชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ย.67นี้ แม้ว่าคะแนนระหว่างผู้สมัครทั้งสองจะไม่ต่างจากผลโพลล์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่การสำรวจครั้งล่าสุดที่เพิ่งเสร็จสิ้นเมื่อวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ชี้ให้เห็นว่า โหวตเตอร์โดยเฉพาะฝั่งเดโมแครต อาจตื่นเต้นกับการเลือกตั้งปีนี้มากกว่าครั้งที่นายโจ ไบเดน เอาชนะนายทรัมป์ในศึกชิงปธน.เมื่อเดือนพ.ย. 2563 จากการสำรวจความคิดเห็นเป็นระยะเวลา 3 วันพบว่า 78% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงทะเบียนแล้วยืนยันว่าจะไปลงคะแนนเสียงอย่างแน่นอน โดยแบ่งเป็นผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต 86% และผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน 81%ตัวเลขดังกล่าวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอสส์เมื่อช่วงใกล้เลือกตั้งครั้งที่แล้ว (23-27 ต.ค. 2563) ซึ่งมีผู้ยืนยันว่าจะไปใช้สิทธิแน่นอนเพียง 74% โดยแบ่งเป็นผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต 74% และผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน 79%

           อย่างไรก็ตาม ผลโพลล์ครั้งนี้มีค่าความคลาดเคลื่อนราว 4%ทั้งนี้ นางแฮร์ริส เข้าร่วมชิงตำแหน่งปธน.ในเดือนก.ค. หลังจากนายไบเดน ถอนตัวจากการลงสมัครชิงตำแหน่งอีกสมัย เนื่องจาก พลาดท่าในการโต้วาทีกับทรัมป์เมื่อเดือนมิ.ย.ในช่วงนั้น นายทรัมป์ถูกมองว่าเป็นตัวเต็ง เนื่องจาก มีภาพลักษณ์ว่าเก่งด้านเศรษฐกิจ หลังจากที่ประเทศต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูงมาหลายปีในยุคที่นายไบเดนเป็นผู้นำ แม้ว่าสถานการณ์เงินเฟ้อจะเริ่มคลี่คลายลงบ้างในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาก็ตาม  

          ขณะเดียวกัน เมื่อถามว่าใครจะบริหารประเทศด้าน "เศรษฐกิจ การว่างงาน และการจ้างงาน" ได้ดีกว่า ผลโพลล์ชี้ว่านายทรัมป์นำหน้านางแฮร์ริส 45% ต่อ 40% โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามถึง 26% ที่เลือกเรื่องนี้ว่า เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของประเทศ ขณะที่ 23% มองว่าลัทธิสุดโต่งทางการเมืองเป็นปัญหาหลัก และมีเพียง 3% เท่านั้นที่กังวลเรื่องสาธารณสุขมากที่สุด ความได้เปรียบของนายทรัมป์ในด้านเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยล่าสุดเขานำนางแฮร์ริสถึง 5% ซึ่งมากกว่าผลสำรวจเมื่อปลายเดือนก.ย. ที่แล้วที่นำเพียง 2% เท่านั้น

          แม้ว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะดูกระตือรือร้นที่จะไปลงคะแนน แต่ทั้งนางแฮร์ริสและนายทรัมป์ต่างก็ยังไม่สามารถเอาชนะใจคนส่วนใหญ่ได้ โดยโพลล์พบว่ามีเพียง 46% ของผู้ตอบแบบสำรวจที่มีความเห็นในเชิงบวกต่อนางแฮร์ริส ส่วนนายทรัมป์ได้ไป 42% อนึ่ง ผลโพลล์ล่าสุดจากรอยเตอร์/อิปซอสส์ได้ทำการสำรวจทางออนไลน์กับชาวอเมริกัน 938 คนทั่วประเทศ โดยในจำนวนนี้มีผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งแล้ว 807 คน และในกลุ่มนี้มี 769 คนที่คาดว่าจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งจริง ๆ เมื่อดูเฉพาะกลุ่ม 769 คนแล้ว พบว่านางแฮร์ริสนำนายทรัมป์อยู่ 3% โดยได้คะแนน 47% ต่อ 44%

#เลือกตั้งสหรัฐ