การหาเสียงของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้มข้น เพื่อช่วงชิงคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังตัดสินใจไม่ได้ เนื่องจาก การสำรวจความคิดเห็น พบว่า นางกมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต และ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน มีคะแนนสูสีกัน มีการคาดการณ์ว่า นายทรัมป์ อาจจะกลับมาชนะการเลือกตั้ง ทำให้กำหนดการหาเสียงมีความเข้มข้นขึ้น
การหาเสียงที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา นางแฮร์ริส วัย 60 ปี ระบุว่า นายทรัมป์ เป็นอันตรายต่อประชาธิปไตยมากจนแม้แต่ผู้สนับสนุนนายทรัมป์ ก็ยังหันหลังให้เขา
ส่วนการหาเสียงที่เมืองมัลเวิร์น รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดรัฐสมรภูมิที่คาดว่าจะตัดสินผู้ชนะการเลือกตั้งในวันที่ 5 พ.ย. 67 นางแฮร์ริส กล่าวว่า ในหลายๆ ด้าน นายทรัมป์ เป็นคนไม่จริงจัง ผลที่ตามมาในสมัยที่เขาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯร้ายแรงมาก
ด้านนายทรัมป์ วัย 78 ปี ปฏิเสธความคิดที่ว่าตัวเองเป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตยบ่อยครั้ง โดยให้เหตุผลว่าพรรคเดโมแครตต่างหากที่เป็นภัยคุกคามที่แท้จริง เนื่องจาก พยายามพลิกผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 การลงพื้นที่ครั้งนี้ นายทรัมป์เดินสายหาเสียงทั่วรัฐนอร์ทแคโรไลนา เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนเฮลีนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง แม้ว่าจะมีความยากลำบากก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์ วิจารณ์หน่วยงานจัดการเหตุฉุกเฉิน FEMA ซ้ำอีกครั้งว่าช่วยเหลือล่าช้าและพยายามสร้างความสัมพันธ์กับผู้สนับสนุนชนชั้นแรงงาน
ผลการสำรวจความคิดเห็นของวอชิงตันโพสต์ พบว่า
-ในกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งในรัฐจอร์เจีย นางแฮร์ริส มีคะแนนนำ 51% ต่อ 47% ส่วนที่รัฐแอริโซนา นายทรัมป์ มีคะแนนนำเล็กน้อยที่ 49% ต่อ 46%
-ผลการสำรวจทั้งสองครั้งอยู่ในช่วงบวกหรือลบ 4.5 % ของค่าผิดพลาดในการสำรวจ
-การสำรวจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 5,016 คน ระหว่างวันที่ 30 ก.ย.67-15 ต.ค.67 หลังจากนางแฮร์ริส เป็นผู้แทนของพรรคแทนนายโจ ไบเดน มีคะแนนนำในรัฐเพนซิลเวเนีย มิชิแกน และวิสคอนซิน ซึ่งเป็น 3 รัฐ ที่เธอหาเสียงเมื่อวันจันทร์(21ต.ค.67) ร่วมกับลิซ เชนีย์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน
-รัฐนอร์ทแคโรลา นายทรัมป์มีคะแนนนำ
-รัฐเนวาดา นายทรัมป์ และ นางแฮร์ริส มีคะแนนนิยมเท่ากันที่ 48%
#เลือกตั้งสหรัฐฯ
แฟ้มภาพ