ผบ.ตร.ย้ำ ดำเนินคดีทุกคน เชื่อมโยงดิไอคอน กรุ๊ป ยึดพยานหลักฐานเป็นหลัก

วันนี้, 14:32น.


           การดำเนินคดี ดิไอคอนกรุ๊ป พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมติดตามความคืบหน้าพร้อมด้วยคณะทำงานฯ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) การประชุมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนออกตั้งโต๊ะแถลง ระบุว่า หลังจับผู้ต้องหาทั้ง 18 คน ควบคุมในเรือนจำพิเศษกรุงเทพล่าสุดอยู่ระหว่างการขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงิน และ วิเคราะห์บัญชีการเงิน รวมถึงการสอบสวน ประเด็นอื่นๆ แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมว่าเข้าข่ายความผิดฐานใดอีกบ้าง พร้อมตรวจค้น 11 จุด ล้วนเป็นผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ตั้งแต่ระดับพนักงานและคนใกล้ชิดกับผู้ต้องหาทั้ง 18 คน แต่ยืนยันไม่ใช่กลุ่มญาติหรือภรรยาผู้ต้องหา โดยปฏิบัติการขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจค้นยังไม่ได้รับรายงาน แต่เบื้องต้นจะเก็บข้อมูลและหลักฐานต่าง ๆที่เป็นประโยชน์ต่อคดีหากเกี่ยวข้องถึงใครจะดำเนินคดีไม่มีละเว้น



        ส่วนการเตรียมออกหมายจับกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกระทำความผิดในล็อต 2 เชื่อว่า ไม่ช้านี้จะสามารถดำเนินการได้ ย้ำว่า ไม่จะระดับไหนต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด



           ส่วนการแบ่งแยกระหว่างตัวผู้เสียหายที่อาจจะเป็นแม่ข่าย หรืออาจจะเป็นผู้ต้องหาได้เองนั้น ได้กำชับพนักงานสอบสวน และทีมวิเคราะห์ จำเป็นต้องทำการสอบสวนตามขั้นตอน และกระบวนการและให้เชื่อได้ว่า คือ ผู้เสียหาย เพราะถือว่าเป็นสิทธิ์ แต่ย้ำว่า ทีมสอบสวนตั้งแต่การสอบปากคำบุคคล ที่แสดงตัวเป็นผู้เสียหาย จะต้องมีการเตรียมหลักฐานทางการเงิน-หลักฐานการสูญเสียเงินว่า เสียหายด้วยวิธีใด พร้อมระวังผู้ที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด มาแสดงตัวเป็นผู้เสียหาย แต่ถ้าพบข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานปรากฎว่ากลายเป็นผู้มีส่วนร่วมนั้น ก็จะต้องถูกดำเนินคดี ดังนั้นขอย้ำว่าการดำเนินการ“ต้องผ่านการวิเคราะห์ในเรื่องของพยานหลักฐาน”



           กรณี บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป มีการเชื่อมโยงกับเว็บพนันออนไลน์หรือไม่นั้น  ผบ.ตร. ย้ำว่า ยังไม่พบแต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ พร้อมย้ำว่า ทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจะมีการตรวจสอบและสอบสวนในทุกเรื่อง



           ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า สำหรับเรื่องข้อมูลเลขบัตรประชาชนของบอสพอลที่มีขึ้นต้นด้วยเลข 5 นั้น เบื้องต้นได้มีการตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร พบว่าเป็นการแจ้งตกหล่นในการสำรวจ และมีการเพิ่มชื่อทีหลัง แต่ยืนยันว่าเป็นคนไทยยังไม่พบว่าเป็นต่างด้าว



           อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการสืบสวนเพิ่มเติม หากจะมีกลุ่มผู้เสียหายได้ไปร้องเรียนกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในเรื่องพนักงานสอบสวน ชี้นำทำให้เกิดความเสียหายเท็จขึ้นมา ตำรวจจะชี้แจงอย่างไร  พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เป็นความเข้าใจของบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ แต่อยากจะเรียนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการทำงานหนักมาก และในการสอบสวนจำเป็นต้องมีความรอบคอบรัดกุม ซึ่งความผิดแต่ละประเภทนั้น จะมีองค์ประกอบความผิดตามกฎหมาย หากใช้ความรู้สึกอย่างเดียว แล้วแจ้งข้อกล่าวหาผู้ใดผู้หนึ่ง เราอาจจะตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาเองก็ได้



           ส่วนกรณีพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) และพิธีกรชื่อดัง ที่มีพฤติกรรมลักษณะออกมาชวนเชื่อ จะมีพฤติกรรมคล้ายกันหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้ระยะยาวในการตรวจสอบเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน



           ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังตอบคำถามประเด็น การตรวจสอบเงินโยกย้ายเงินแปลงสกุลเงินคริปโตว่า เมื่อวานนี้มีการสอบสวนทั้งหมดแล้ว และจากการตรวจสอบในเรื่องนี้ มีความคืบหน้า แต่ขอย้ำว่า “ ข้อเท็จจริงใครที่พูดแล้วไม่ใช่ข้อเท็จจริงเอาข้อมูลอันเป็นเท็จออกเผยแพร่ โดยต้องการ เวทีสาธารณะ ต้องรับผิดชอบในข้อมูลอันเป็นเท็จที่เผยแพร่ต่อด้วย“



            ส่วนเรื่องรถลัมโบกินี สีเขียว ที่ทำการตรวจยึดมาเมื่อวานนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบแต่ทราบว่าผู้ที่ประสานมอบให้ตำรวจเพราะกลัวความผิดที่รับทรัพย์สินไปแล้ว จึงติดต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจโดยผ่านทนายให้ไปรับทรัพย์สินดังกล่าว อยู่ระหว่างการติดต่อบุคคลดังกล่าวเข้ามาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย นอกจากนี้ ยังฝากไปถึงกลุ่มแม่ข่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป เริ่มทยอย ยักย้ายทรัพย์สิน ขอย้ำว่า ยิ่งเคลื่อนไหวก็ยิ่งมีความผิดซึ่งจะเป็นหลักฐานที่ปรากฏพฤติกรรมในทางคดีอย่างชัดเจน



          การดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 18 คน ล็อตแรก เชื่อว่า จะทันเวลาในการฝาก 4 ฝาก ผัดฟ้อง จำนวน 48 วัน และไม่มีความกังวลใจ เพราะอยู่ในกรอบเวลาของการทำงานอยู่แล้ว



#ดิไอคอน

ข่าวทั้งหมด

X