นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า จากกรณีบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่ง ประกาศเชิญชวนคนหางาน สมัครงานไปทำงานที่สาธารณรัฐเกาหลี ในตำแหน่งคนงานเกษตรตามฤดูกาล โดยอ้างว่าใช้วีซ่า C4 หรือวีซ่าทำงานระยะสั้น สามารถเดินทางไปทำงานได้โดยไม่ต้องขออนุญาตกรมการจัดหางาน
บริษัทดังกล่าวได้มีการเชิญชวนคนหางานเข้าร่วมรับฟังการชี้แจงรายละเอียดการประกาศรับสมัครงาน ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ นั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ กรมการจัดหางานไม่ได้นิ่งนอนใจ มอบหมายให้สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครสวรรค์ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบการประกาศรับสมัครงานของบริษัทดังกล่าวแล้ว จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวได้มีการประกาศรับสมัครงานจริง ซึ่งเข้าข่ายเป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ยุติการประชาสัมพันธ์รับสมัครงาน และได้ชี้แจงการเกี่ยวกับการเดินทางไปทำงานต่างประเทศแบบถูกต้องตามกฎหมายให้คนหางานที่เข้าร่วมรับฟังทราบ อย่างไรก็ดี จากการสอบถามคนหางานพบว่า ยังไม่มีผู้สมัครงานหรือเสียเงินค่าบริการและค่าใช้จ่าย รวมทั้ง ยังไม่มีผู้เสียหายเข้าร้องเรียน/ร้องทุกข์จากการถูกหลอกลวง แต่อย่างใด
การจัดส่งแรงงานไปทำงานภาคเกษตรตามฤดูกาล (Seasonal Worker) ที่เกาหลีใต้ นั้น วีซ่า E-8 ทางการเกาหลีใต้ระบุชัดเจนให้กรมการจัดหางานเป็นหน่วยงานผู้ดำเนินการจัดส่งเท่านั้น กรมการจัดหางานจึงขอย้ำเตือนคนหางานให้ระมัดระวังการชักชวนไปทำงานต่างประเทศ ก่อนตัดสินใจไปทำงาน โดยขอให้ตรวจสอบรายชื่อบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งคนหางานไปทำงานต่างประเทศจากกรมการจัดหางาน ที่เว็บไซต์ กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน doe.go.th/ipd เสียก่อน และสำหรับผู้ที่หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ โดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ต้องระวางโทษจำคุก 3-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และการโฆษณาการจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางาน มีความผิด ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีการดำเนินคดี นายหน้าเถื่อนแล้ว 452 ราย หลอกลวงคนหางานทั้งสิ้น 608 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย จำนวน 44,223,300 บาท ซึ่งประเทศที่พบคนหางานถูกหลอกลวงไปทำงานมากที่สุด ได้แก่ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สหรัฐอเมริกา และไอซ์แลนด์ ตามลำดับ
ผู้สนใจทำงานต่างประเทศสามารถศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่ตนจะเดินทางไปทำงาน เพื่อป้องกันการหลอกลวงได้ผ่านทางระบบ e - Service กรมการจัดหางาน ที่เว็บไซต์ doe.go.th หรือเว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ doe.go.th/overseas หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 และสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694
ก่อนหน้านี้ เพจกรมการกงสุลเพื่อคนไทย โพสต์เตือนคนไทยที่ต้องการเดินทางไปทำงานฟาร์มเกษตรที่ออสเตรเลีย ว่าอย่าหลงเชื่อโฆษณาชักชวนไปทำงานบนสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งอ้างว่า รัฐบาลออสเตรเลียร่วมกับกระทรวงแรงงานจัดหาแรงงานไปทำงานฟาร์มเกษตรในออสเตรเลีย โดยจะได้วีซ่าทำงาน 3-5 ปี ค่าตอบแทนเดือนละ 90,000 -120,000 บาท มีที่พัก ค่าเดินทาง ค่าวีซ่า โดยให้ผู้สนใจชำระค่าบริการจำนวนมาก เมื่อชำระครบจะอ้างว่า วีซ่าไม่ผ่าน ไม่สามารถเดินทางได้หรือเสนอให้เดินทางด้วยวีซ่าท่องเที่ยวเพื่อเปลี่ยนเป็นวีซ่าทำงานหรือวีซ่าผู้ลี้ภัยภายหลัง
ข้อเท็จจริง ออสเตรเลียยังไม่มีความร่วมมือกับประเทศไทยด้านการส่งแรงงานและยังไม่มีนโยบายการออกวีซ่าเกษตรให้กับคนไทย คนไทยที่ต้องการเดินทางไปทำงานในออสเตรเลีย สามารถยื่นขอวีซ่า Work and Holiday (WAH) โดยต้องมีคุณสมบัติตามที่ทางการออสเตรเลียกำหนด
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา Hotline: (+61) 40 273 5642 (กรณีฉุกเฉินเร่งด่วน)
E-mail: thaiembassy.can@mfa.go.th / Facebook: Royal Thai Embassy Canberra
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ Hotline: (+61) 41 142 4303 (กรณีฉุกเฉินเร่งด่วน) E-mail: thaisydney@thaiconsulatesydney.org
Facebook: Royal Thai Consulate-General, Sydney / Line: @thaiconsulatesyd
Cr:กรมการจัดหางาน ,ข่าวกรมการกงสุลเพื่อคนไทย
#แรงงานไทย
#ไปทำงานเกาหลีใต้
#ไปทำงานออสเตรเลีย