นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าจากกรณีที่มีเหตุยิงจรวดจากเลบานอนเข้าไปในเขตประเทศอิสราเอล ทำให้แรงงานไทยเสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย โดยขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ โดยตั้งแต่เริ่มมีความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง กระทรวงการต่างประเทศพยายามที่จะชะลอการเดินทางของแรงงานไทยไปยังภูมิภาค โดยมีความเข้าใจดีว่าแรงงานไทยต้องการโอกาสที่จะมีชีวิตที่ดีกว่า แต่สถานการณ์ในตะวันออกกลางขณะนี้มีความขัดแย้งรุนแรง
เมื่อเกิดเหตุ สถานทูตได้ประท้วงไปยังหน่วยราชการของอิสราเอล เนื่องจากพื้นที่ที่แรงงานไทยเสียชีวิตนั้น เป็นพื้นที่ที่ทางการอิสราเอลประกาศเป็นพื้นที่ทางทหาร แต่มีความพยายามของนายจ้างชาวอิสราเอลที่นำแรงงานเข้าไปทำงานเป็นเวลา 2-3 ชั่วโมง แม้จะเป็นระยะสั้นแต่ก็ไม่ทราบว่าจะมีการโจมตีเกิดขึ้นเมื่อใด จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความสูญเสีย ที่สำคัญคือไม่ต้องการให้มีแรงงานไทยเสียชีวิตในภูมิภาคตะวันออกกลางอีก จึงขอให้หน่วยราชการไทยร่วมกันช่วยชะลอการเดินทางเข้าไปทำงานของคนไทยในภูมิภาค
เมื่อประเมินสถานการณ์แล้วพบว่ายังมีความน่าเป็นห่วง และมีแนวโน้มที่ความขัดแย้งจะขยายตัวมีความเป็นไปได้สูงที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน กระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ จึงใช้กรณีนี้เรียกร้องรัฐบาลอิสราเอลยุติการนำแรงงานไทยเข้าไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยหรือพื้นที่ที่อิสราเอลประกาศเป็นพื้นที่ต้องห้าม
นอกจากนี้ยังได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีการต่างประเทศของอิสราเอล ในฐานะที่ประเทศไทยเพิ่งได้รับเลือกเป็นสมาชิกของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (เอชอาร์ซี) จึงมีหน้าที่แสดงจุดยืนในเรื่องสำคัญ ขอให้ช่วยใช้ความยับยั้งชั่งใจเพื่อไม่ให้ความขัดแย้งขยายตัวมากยิ่งขึ้น พร้อมขอให้ทุกฝ่ายหยุดการกระทำที่จะนำไปสู่การขยายตัวของสงคราม และเข้าร่วมการเจรจาเพื่อหาทางยุติข้อขัดแย้ง บนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรสหประชาชาติเป็นหลัก โดยจุดยืนของไทยคือ การยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง
…
#กระทรวงการต่างประเทศ
#อิสราเอล
#แรงงานไทย