นายไพรัช สร้อยแสง นายอำเภอเกาะกูด ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีที่มีการแสดงความเห็นเกี่ยวกับอำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด ในประเด็นการเป็นพื้นที่ทับซ้อน การเสียดินแดนและอื่นๆ โดยยืนยันว่า อำเภอเกาะกูดมีการชี้แจงไปแล้วหลายครั้ง ว่าอำเภอเกาะกูด เป็นดินแดนของประเทศไทยอย่างชัดเจนตามสนธิสัญญา สยาม-ฝรั่งเศส ร.ศ.125 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2549 (ค.ศ.1907) แต่ยังคงมีกลุ่มบุคคลผู้รักชาติพยายาม แสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง ถึงกับจะลงมาจัดกิจกรรมในพื้นที่อำเภอเกาะกูด ซึ่งจะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจ ของประชาชนบนเกาะกูดอย่างร้ายแรง
อำเภอเกาะกูด เป็นอำเภอที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเป็นหลัก ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาทางท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน สร้างรายได้ไห้กับประเทศไทยนับพันล้านบาท จึงขอวิงวอนกับกลุ่มผู้รักชาติที่เสนอข่าวเกี่ยวกับเกาะกูดได้พิจารณาให้รอบคอบก่อนนำเสนอ เพราะจะกระทบต่อประชาชน และผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวของอำเภอเกาะกูด โดยตรง
ส่วนนายเดชาธร จันทร์อบ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะกูด เปิดเผยว่ามีนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวเกาะกูด เกิดความวิตกสอบถามเป็นจำนวนมาก จึงชี้แจงว่า เกาะกูดเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดตราด และประเทศไทย มีชาวไทยอาศัยทำมาหากินมาตั้งแต่บรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน ไม่มีการเสียแผ่นดินเกาะกูดให้กับกัมพูชาแต่อย่างใด ส่วนกรณีพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ไม่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน สถานประกอบการ ธุรกิจที่ต่อเนื่องกับการท่องเที่ยวเกาะกูด ซึ่งเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลไทย ที่จะต้องดำเนินการเจรจาผลประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป
....
#อำเภอเกาะกูด
ททท.สำนักงานตราด : TAT Trat Office