ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของจีนสูญเสียยอดขายในยุโรปอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่า การปรับขึ้นภาษีศุลกากรส่งผลกระทบต่อยอดขาย โดยมีส่วนแบ่งการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคยุโรปอยู่ที่ร้อยละ 8.5 ในเดือนกันยายน ซึ่งลดลงจากร้อยละ 9.6 ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ตามตัวเลขที่จัดทำโดยบริษัทวิจัย Dataforce และเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เมื่อสหภาพยุโรปหรืออียูประกาศขึ้นภาษีศุลกากรสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีน ส่งผลให้อัตราภาษีนำเข้าสูงถึงร้อยละ 45.3 แม้ว่าจะมีการเจรจาเป็นเวลานานหลายเดือน แต่ก็ยังไม่สามารถคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าได้ ภาษีศุลกากรฉบับใหม่จึงมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันพุธ (30 ต.ค.67)
สมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งยุโรป รายงานว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ของผู้ผลิตทุกรายในยุโรปเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ในเดือนกันยายน โดยในสหราชอาณาจักรมียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เนื่องจากผู้ผลิตลดราคารถยนต์ไฟฟ้าลงอย่างมากเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดการขายรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์
โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการจีนแจ้งให้ผู้ผลิตรถยนต์ของตนหยุดการลงทุนขนาดใหญ่ในประเทศยุโรปที่สนับสนุนการเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีน โดยสมาชิกสหภาพยุโรป 10 ประเทศ รวมถึงฝรั่งเศส โปแลนด์ และอิตาลี สนับสนุนการเก็บภาษีเพิ่มเติม ส่วนสมาชิก 5 ประเทศ รวมถึงเยอรมนีที่คัดค้าน และ 12 ประเทศงดออกเสียง
ยุโรปเป็นตลาดที่ครองส่วนแบ่งมากกว่าร้อยละ 40 ของรถยนต์ไฟฟ้าจีนในปี 2566 ซึ่งก่อนหน้านี้ สหรัฐและแคนาดายังใช้มาตรการภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนด้วย ทำให้มีความเสี่ยงที่จีนจะเผชิญกับปัญหาการผลิตส่วนเกินในประเทศมากขึ้น
..
#รถไฟฟ้าจีน
#ยุโรป