การประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาร่วมกันในการขอมติแจ้งข้อกล่าวหา พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือกฎหมายแชร์ลูกโซ่ กับ ผู้ต้องหาดิไคอนกรุ๊ปทั้ง 18 คน ภายหลังจากที่ได้สอบปากคำผู้แทน สคบ. และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในข้อเท็จจริงของคดีไปแล้วเมื่อเวลาประมาณ 16.40 น.พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า คณะสอบสวนในคดีดิไอคอน ได้มีการประชุมร่วมกันและมีมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย และนิติบุคคลอีก 1 ราย (บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป) ในความผิด พรก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือแชร์ลูกโซ่ และพรบ.ขายตรง ซึ่งจะดำเนินการแจ้งข้อหาภายในสัปดาห์นี้ หรืออาจต่อเนื่องไปถึงสัปดาห์หน้า เพราะความพร้อมของผู้ต้องหาและทนายความแต่ละคนอาจจะไม่พร้อมกัน
รวมทั้งมีการพิจารณาจัดตั้งศูนย์เพื่อประกอบกำลังในการที่จะปฏิบัติงานในคดีนี้รวมถึงการแบ่งมอบหมายงานให้เกิดประสิทธิภาพและคาดว่าจะมีการตั้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐมาร่วมในการสอบสวนด้วย
เมื่อสอบถามว่าทำไมถึงได้มีการแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่กับทั้ง 18 ราย พ.ต.ต.ยุทธนา เผยว่า ในชั้นนี้ทางดีเอสไอได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งเรื่องมาโดยได้มีการสอบปากคำพยานเพิ่มเติม จนมีหลักฐานตามสมควรแล้วว่าผู้ต้องหาทั้ง 18 รายรวมกับนิติบุคคลเข้าข่ายกระทำความผิดแชร์ลูกโซ่
ส่วนของบอสดาราทั้ง 3 ราย ทำไมถึงโดนเรื่องความผิดแชร์ลูกโซ่ด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา บอกว่า ทุกคนอาจจะมีหน้าที่ไม่เหมือนกันแต่จากการพิจารณาจะดูว่าแต่ละคนมีการแบ่งหน้าที่กันแต่ทุกคนล้วนแล้วมีจุดประสงค์เดียวกันคือการกระทำความผิดที่เข้าองค์ประกอบการแชร์ลูกโซ่
ด้าน สคบ. ยืนยันแล้วว่า การกระทำนั้นเข้าข่ายความผิดขายตรง เมื่อเป็นความผิดแล้ว ซึ่งในชั้นการสอบสวนของดีเอสไอพบว่ามีหลักฐานตามสมควรแล้ว ซึ่งหลังจากนี้หากผู้ต้องหาทั้ง 18 รายมีความประสงค์จะชี้แจงก็เป็นสิทธิ์ตามกฎหมายซึ่งทางดีเอสไอและตำรวจสอบส่วนกลางจะเดินทางเข้าไปที่เรือนจำอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับ การออกหมายจับผู้ต้องหาล็อตที่ 2 พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่าตอนนี้ทางดีเอสไอได้มีการรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีต้องมีการดำเนินการรวบรวมในเรื่องของพยานหลักฐานในชุดแรกให้เสร็จสิ้นก่อน เพราะล็อตแรกมีระยะเวลาในการควบคุม
#ดิไอคอน
#แชร์ลูกโซ่
แฟ้มภาพ