สภาคองเกรสสหรัฐ จะชี้ขาด กรณีผู้สมัครชิงปธน.สหรัฐ มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งเท่ากัน

          ในวันนี้ชาวอเมริกันไม่เพียงลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีที่ตนชื่นชอบเท่านั้น แต่ยังเข้าคูหาเพื่อเลือกผู้สมัครดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ในระดับรัฐบาลกลาง ระดับรัฐ และระดับท้องถิ่นด้วย ประกอบไปด้วยวุฒิสมาชิก 34 ที่นั่ง และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 435 ที่นั่ง รวมถึงการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ 11 รัฐ บวกกับอีกสองดินแดน (เปอร์โตริโก และอเมริกันซามัว)

          ชาวอเมริกันจำนวนหนึ่งได้ใช้สิทธิลงคะแนนล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ด้วยการลงคะแนนทางไปรษณีย์ หรือออกไปหย่อนบัตรที่คูหาซึ่งผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีจะต้องได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) เกินกึ่งหนึ่ง หรือ 270 เสียง จากทั้งหมด 538 เสียง

          ในกรณีที่ผู้สมัครทั้งสองคนมีคะแนนเสียงเท่ากันคือ 269 สภาคองเกรสจะเป็นผู้เลือกประธานาธิบดี ส่วนวุฒิสภาจะเลือกรองประธานาธิบดี เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งในปีพ.ศ. 2367 หรือ 200 ปีก่อน ครั้งนั้น สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯเลือกนายจอห์น ควินซี แอดัมส์ ประธานาธิบดีคนที่หกของสหรัฐฯ ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 1825-1829 หลังมีคะแนนเสมอคู่แข่งคือ แอนดรูว์ แจ็กสัน ซึ่งต่อมา เป็นประธานาธิบดีคนที่ 7 ของสหรัฐฯ

         อย่างไรก็ตาม การประกาศผลการเลือกตั้งที่แน่นอนอาจต้องใช้เวลาหลายวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการแข่งขันระหว่างแฮร์ริสกับทรัมป์สูสีกันจนไม่สามารถทราบผู้ชนะได้ในคืนวันเลือกตั้ง นอกจากนี้บัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง เช่นในปี 2563 โจ ไบเดน ได้รับการประกาศให้เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง หลังจากวันเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย. ผ่านไปแล้วถึงสี่วัน ขณะที่ในปี 2559 ฮิลลารี คลินตัน ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ให้กับทรัมป์ในเช้าวันรุ่งขึ้นหลังวันเลือกตั้ง

          หน่วยเลือกตั้งแรกๆของสหรัฐฯจะทยอยปิดในเวลา 18.00 น.วันนี้ (5 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยหน่วยเลือกตั้งสุดท้ายจะปิดในเวลา 01.00น.ของวันพรุ่งนี้(6 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น  นอกจากนั้น ยังพบว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯบางครั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้งสหรัฐฯสามารถประกาศผลเลือกตั้งในช่วงดึกของวันเลือกตั้ง หรือเช้ามืดของวันรุ่งขึ้น

          แต่การเลือกตั้งในปีนี้ การแข่งขันระหว่างรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตและอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันค่อนข้างสูสีในหลายรัฐต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ จากผลสำรวจของโพลส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ หมายความว่า สื่ออาจจะต้องรอนานกว่าเดิม ก่อนจะคาดการณ์แนวโน้มการเลือกตั้งว่า ใครชนะการเลือกตั้ง

#การเลือกตั้งสหรัฐ

#ผลเลือกตั้ง