หลังการจับกุม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด พร้อม นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนได้การแยกสอบสวนมานานกว่า 5 ชั่วโมง แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น โดยมีทนายความจากบริษัทษิทรา ลอว์ เฟิร์ม จำกัด มาร่วมรับฟังการสอบปากคำด้วย พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่เดินทางมาเข้าร่วมสอบสวนด้วย เปิดเผยว่า การสอบปากคำนายษิทรา และภรรยา ยังคงมีหลายประเด็นที่ยังพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงไม่ได้ คาดว่าการสอบปากคำอาจยาวนานจนเลยเวลา 22.00 น.ไปแล้ว ส่วนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปคุมขังไว้ที่ห้องขังหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่ารายละเอียดการสอบสวนจะแล้วเสร็จหรือไม่
สำหรับบรรยากาศการสอบปากคำทนายตั้มและภรรยา นั้นผู้ต้องหาค่อนข้างมีอาการเครียด เนื่องจากผู้ที่เข้าร่วมทำการสอบสวนล้วนเป็นนายตำรวจระดับสูงของ บช.ก.อาทิ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต. สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก.และ พล.ต.ต.มนตรี เทศขันธ์ ผบก.ป. ซึ่งผิดกับเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่นายษิทรา เดินทางเข้ามาและแถลงข่าวกับสื่อมวลชนที่หน้าตึกกองปราบปราม ภายหลังจากแถลงข่าวเสร็จสิ้นแล้ว นายษิทราจะขอขึ้นไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงของ บช.ก. โดยแจ้งกับตำรวจนายเวรรักษาการณ์ว่า จะขอขึ้นไปพบนายตำรวจระดับสูงของ บช.ก.เท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ชี้แจงว่า หากไม่ได้นัดหมายมาก่อนก็ขึ้นไปพบไม่ได้ สร้างความไม่พอใจกับนายษิทรา ก่อนที่จะเดินทางออกจาก บช.ก.ไป จนกระทั่งมาถูกจับกุม ทำให้ในวันนี้ ได้พบกับนายตำรวจระดับสูงจริง ๆ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ย.) ชุดสืบสวนกองปราบปรามเตรียมจะเข้าตรวจค้น บริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม จำกัด และเป้าหมายต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องอีกหลายแห่งเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมด้วย ส่วนการฝากขังนายษิทราและภรรยาต่อศาลอาญานั้น มีรายงานว่า เร็วที่สุดจะเป็นช่วงก่อนเที่ยงของวันพรุ่งนี้ ( 8 พ.ย.) หลังการตรวจค้นเป้าหมายต้องสงสัยเสร็จสิ้นรวมทั้งพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาอีกด้วย
#ษิทราถูกคดีฉ้อโกง
#ตำรวจสอบสวนกลาง