เช้าตรูวันนี้ จส.100 ได้รับแจ้งจากคุณสมพงษ์ พบเห็นพบรถเก๋ง มาสด้า2 สีดำ เปิดไฟสูง ขับย้อนศร บนทางด่วน จาก ด่านพระราม9 >ต่างระดับพญาไท>แยกอุรุพงษ์>ด่านจันทร์ >ด่วนสาธุประดิษฐ์ >แยกต่างระดับท่าเรือ>ดินแดง เบื้องต้นตรวจสอบพบผู้ขับขี่คือ น.ส.วันทนีย์ อายุ 35 ปี มีอาการมึนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง ระหว่างเจรจาได้มีปากเสียงด่าทอเจ้าหน้าที่ และมีการยื้อยุดฉุดกระชากกันไปมาระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ต้องหา เพื่อจะวิ่งหลบหนี ด้วยพื้นที่เกิดหตุเป็นทางพิเศษ มีการสัญจรของรถด้วยความเร็ว จึงได้เชิญตัวน.ส.วันทนีย์ มาที่งานศูนย์ควบคุมจราจรด่วน 2ฯ เจ้าพนักงานจราจร ได้ทำการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ได้ เกินกำหนด 214 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากการตรวจสอบกล้องวงปิดบนทางพิเศษ จึงทราบว่า เวลาประมาณ 04.35 น. รถยนต์ของ น.ส.วันทนีย์ ได้ขับย้อนทางลงอโศก 1 มุ่งหน้าต่างระดับมักกะสัน ในช่องทางซ้ายและหยุดรถ
ต่อมาเวลาประมาณ 04.46 น. ได้เปลี่ยนช่องทางมาขับขี่ช่องขวาสุดตลอดเส้นทางตั้งแต่ต่างระดับมักกะสัน ผ่านต่างระดับพญาไท ผ่านทางขึ้นยมราช ผ่านทางขึ้นหัวลำโพง ผ่านต่างระดับบางโคล่ ผ่านราบบ่อนไก่ และมาถูกสกัดกั้นและหยุดรถไว้ได้ที่ ทางขึ้นด่วนเพชรบุรี เมื่อเวลาประมาณ 05.19 น.ของวันเดียวกัน
เบื้องต้นมีรายงานว่า น.ส.วันทนีย์ แจ้งว่า ตนเองเป็นเภสัชกร ตอนนี้ยังถูกควบคุมตัวและยังมีอาการอาละวาดอยู่
พ.ต.อ.พารินท จันทเลิศ ผกก.กองกำกับการ 2 (ศูนย์ควบคุมจราจรทางด่วน ทางพิเศษ) กองบังคับการตำรวจจราจร เปิดเผยว่า จากพยานหลักฐานและการกระทำดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น ตามมาตรา 43(2) และเป็นผู้ขับขี่ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น” โทษสูงสุด ถึงยึดรถ ส่วนคดี ทะเลาะใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ กับเจ้าหน้าที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้บันทึกภาพไว้และแจ้งความที่สน.ลุมพินี คาดว่าจะส่งฟ้องได้ภายใน 48 ชั่วโมง ที่ศาลแขวงพระนครใต้
#เมาแล้วขับย้อนศร