กรุงนิวเดลีของอินเดียประสบปัญหาหมอกควันในช่วงฤดูหนาวเป็นประจำทุกปี ทั้งควันจากท่อไอเสียของรถ และการที่เกษตรกรลักลอบเผาตอซังข้าว หลังฤดูเกี่ยวข้าวในรัฐทางภาคเหนือของอินเดีย เช่น รัฐปัญจาบและรัฐหรยาณา อีกทั้งไม่มีกระแสลมจากพายุซึ่งจะช่วยให้อากาศถ่ายเท สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า หมอกควันซึ่งแผ่ปกคลุมทั่วกรุงนิวเดลีแย่ลงต่อเนื่องตั้งแต่เช้าวันนี้(13 พ.ย.) ขณะที่อุณหภูมิลดลงมาที่ 17 องศาเซลเซียสจาก 17.9 องศาเซลเซียสเมื่อวานนี้ และอินเดียเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวในขณะนี้ ทำให้ทัศนวิสัยสำหรับการขับขี่แย่หนักในบางท้องที่ของกรุงนิวเดลี ทั้งกระทบการบินของเครื่องบินโดยสาร
ข้อมูลการตรวจวัดสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ โดยองค์กร ไอคิวแอร์(IQAir)ของสวิตเซอร์แลนด์ พบว่า กรุงนิวเดลี แซงหน้าเมืองลาฮอร์ของปากีสถานแล้วในวันนี้ (13 พ.ย.) โดยดัชนีคุณภาพอากาศ(AQI)ในกรุงนิวเดลี สูงเกิน 1,000 แสดงให้เห็นว่า ค่าความเข้มข้นของมลพิษทางอากาศ มีค่าเกินมาตรฐาน ทั้งนี้ ตามมาตรฐานของ IQAir ระบุว่า ค่า AQI ระหว่าง 0-50 ถือว่า สภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ค่า AQI สูงเกิน 300 ถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของอินเดีย ระบุว่ามลพิษทางอากาศทำให้ผู้ขับขี่ในบางท้องที่ของกรุงนิวเดลีสามารถมองเห็นในระยะแค่ 100 เมตรเมื่อเวลา 08.00น.ของวันนี้ สอดคล้องกับบริษัทท่าอากาศยานนานาชาติกรุงนิวเดลี ซึ่งเป็นผู้บริหารกิจการของท่าอากาศยานนานาชาติ อินทิราคานธีในกรุงนิวเดลี โพสต์ทาง X เมื่อเช้าวันนี้ว่า ท่าอากาศยานได้แจ้งเตือนสายการบินระวังทัศนวิสัยที่ย่ำแย่สำหรับนักบิน ซึ่งจะกระทบต่อบริการของเที่ยวบินในกรุงนิวเดลีและเมืองอื่นๆของอินเดีย
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลกรุงนิวเดลีปิดโรงเรียนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมจำกัดการขับขี่รถยนต์ส่วนตัว รณรงค์ให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งสาธารณะเช่น รถไฟและรถประจำทาง พร้อมสั่งระงับโครงการก่อสร้างอาคารบางแห่ง เพื่อแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ นอกจากนี้ รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของกรุงนิวเดลีระบุว่าเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า รัฐบาลอินเดียอาจจะทำฝนเทียม เพื่อช่วยแก้ปัญหาลดมลพิษทางอากาศ
#อินเดีย
#หมอกควัน