15-16 พ.ย.67 เวทีการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิค หรือ เอเปค ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู น่าสนใจ เนื่องจาก จะเป็นเวทีที่ผู้นำจาก 21 เขตเศรษฐกิจมาหารือกัน ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง และในช่วงก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับมาบริหารประเทศสหรัฐฯเป็นสมัยที่ 2
ประธานาธิบดีจีน สีจิ้นผิง เดินทางถึงฐานทัพอากาศนอกกรุงลิมา ในวันพฤหัสบดี (14 พ.ย.67) พร้อมนักธุรกิจจีนอีกหลายร้อยคน เป็นการเดินทางถึงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเดินทางมาถึง ผู้นำทั้งสองคนมีกำหนดจัดการประชุมทวิภาคีในวันเสาร์(16 พ.ย.67) ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลของสหรัฐฯ ระบุว่าน่าจะเป็นการพบกันครั้งสุดท้ายระหว่างบรรดาผู้นำของประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลก ก่อนที่นายไบเดน จะส่งมอบอำนาจกลับคืนให้กับนายทรัมป์ การหารือครั้งนี้น่าสนใจ เนื่องจาก นายทรัมป์ ส่งสัญญาณว่าจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงถึงร้อยละ 60 เพื่อปรับสมดุลสิ่งที่เขากล่าวว่าเป็นความไม่สมดุลในการค้าทวิภาคี ทำให้หลายฝ่ายจับตามอง ทั้งความตึงเครียดระหว่างกันและสถานการณ์ในโลก
ขณะเดียวกัน นายไบเดน จะพบกับนายชิเงรุ อิชิบะ นายกฯญี่ปุ่น และ ประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ในเอเชียในวันนี้ (15 พ.ย.67)
นายอิชิบะ กล่าวก่อนจะออกเดินทางจากกรุงโตเกียว เพื่อร่วมการประชุมสุดยอดว่าการเจรจาดังกล่าวมุ่งเน้นที่จะยืนยันและเสริมสร้างความร่วมมือไตรภาคี รายงานระบุว่า นายอิชิบะ จะพบหารือกับนายสี ด้วย
เปรู เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารมากกว่า 13,000 นาย เพื่อดูแลความปลอดภัยในกรุงลิมา เนื่องจาก หลายพื้นที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมออกมาประท้วงและบางจุดมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ ผู้ประท้วง เช่น คนงานขนส่งและเจ้าของร้านค้าประท้วงต่อต้านอาชญากรรมและรัฐบาลไม่ดำเนินการแก้ไข
การประชุมในกรอบเอเปคเป็นการประชุมประจำปีที่มีผู้เข้าร่วมจาก 21 เขตเศรษฐกิจ มีประชากรรวมร้อยละ 38 ของโลก มี GDP รวมร้อยละ 62 ของโลก และมีมูลค่าการค้ารวมร้อยละ 48 ของโลก
#ไบเดน
#สี
#เอเปค
แฟ้มภาพ