เจ้าหน้าที่ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามันตอนบน จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ช่วงเย็นวันที่ 14 พ.ย.ว่า พบซากพะยูนตายลอยขึ้นอืด อยู่บริเวณใกล้ท่าเทียบเรือบ้านบางโรง ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นักวิชาการ และทีมอาสาสมัครการ์เดียนออฟไลฟ์ ออกตามหาจนพบซากช่วงเย็นวันที่ 15 พ.ย.ออกตรวจสอบ และเก็บซากพะยูนตัวดังกล่าว โดยพบภาพที่สะเทือนใจคือเป็นพยูนขนาดตัวเต็มวัยและส่วนหัวหายไป
โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กระบุว่า เกิดขึ้นจริง ๆ แล้ว กับ ซากพะยูนไร้หัว ท่าเรือบางโรง ภูเก็ตต้องจริงจังเต็มกำลังกับเรื่องนี้แล้วสิ พร้อมขอความร่วมมือหลาย ๆ อย่าง จากทุก ๆ คน ช่วยเป็นหูเป็นตาสอดส่องช่วยดูแลพวกเขาให้ปลอดภัยด้วย ใครอยากมาช่วยเป็นอาสาสมัครนักวิทยาศาสตร์พลเรือนก็สามารถติดต่อมาร่วมงานกันได้ และตอนนี้ถ้าเป็นไปได้อยากให้ลดผลกระทบต่อพวกเขาให้มากที่สุดเพราะสถานการณ์ถึงขั้นวิกฤต จึงอยากขอความร่วมมือละเว้นการลอยกระทงลงทะเล
เบื้องต้นซากพะยูนยังไม่รู้เพศ สภาพถูกตัดหัว เหลือเพียงลำตัวยาวไปถึงหาง ขึ้นอึดและเริ่มเน่าเปื่อย คาดตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-5 วัน เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำซากพะยูนขึ้นรถพยาบาลสัตว์ทะเลหายากของศูนย์นำกลับไปยังกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก เพื่อผ่าพิสูจน์ว่าพะยูนตาย เพราะป่วยหรือถูกจับแล้วตัดหัวจนตาย โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ถลาง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนว่าใครเป็นคนตัดหัวพะยูนตัวดังกล่าว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งคาดว่าการตัดหัวพะยูนนั้นต้องการเขี้ยว เพื่อนำไปทำเครื่องลางของขลังตามความเชื่อ
ขณะที่เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ของ อ.ธรณ์ หรือ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ถึงกรณีพบซากพะยูนถูกตัดหัวขาด บริเวณท่าเรือบางโรง ม.3 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ระบุว่า พะยูนถูกตัดหัวเอาเขี้ยว ในรอบ 7 วันโดนไปแล้ว 2 ตัว อยากบอกง่าย ๆ ว่าไอ้ชั่ว
#ฆ่าพะยูน