ผลการเลือกตั้งทั่วไปของศรีลังกา ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี (14 พ.ย.67) นายอนุรา กุมาร ดิสสานายาเก ประธานาธิบดีศรีลังกา ที่ชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนกันยายน นำพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายกวาดชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้ง ส่งผลให้เขามีอำนาจในการผลักดันนโยบายต่างๆ เพื่อฟื้นฟูประเทศจากวิกฤตการณ์ทางการเงิน
ทั้งนี้ พรรคพลังประชาชนแห่งชาติ (NPP) ซึ่งเป็นพรรคร่วมแนวคิดมาร์กซิสต์ของประธานาธิบดี มีเพียง 3 ที่นั่งจาก 225 ที่นั่งในรัฐสภาเป็นพรรคฝ่ายค้านก่อนการเลือกตั้งวันพฤหัสบดี ทำให้เขาตัดสินใจยุบสภาและจัดการเลือกตั้งทั่วไป ผลปรากฏว่า NPP สามารถกวาดที่นั่งไปถึง 159 ที่นั่ง ครองเสียงข้างมากในรัฐสภา
ประธานาธิบดีดิสนายาเกา กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งชี้ถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของศรีลังกา ขณะที่นักวิเคราะห์การเมืองศรีลังกามีความเห็นว่า เหตุหนึ่งที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสนับสนุนเขาก็เพราะการที่เป็นบุคคลที่อยู่นอกกลุ่มตระกูลพรรคการเมืองศรีลังกา ที่ผลัดเปลี่ยนกันบริหารประเทศมานานหลายสิบปี โดยพรรคแนวร่วมประชาธิปไตยใหม่ ที่ให้การสนับสนุนอดีตประธานาธิบดีรานิล วิกรมสิงเห ได้เพียง 5 ที่นั่ง ขณะที่พรรคศรีลังกา โพดูจานา เปรามูนา (SLPP) ของตระกูลราชปักษา ได้ไปเพียง 3 ที่นั่งเท่านั้น
ศรีลังกา มีประชากร 22 ล้านคน เผชิญวิกฤตเศรษฐกิจอย่างหนักในปี 2565 เนื่องจากปัญหาขาดแคลนเงินตราต่างประเทศ ส่งผลให้ประเทศผิดนัดชำระหนี้ เศรษฐกิจหดตัวถึงร้อยละ 7.3 ในปี 2565 และร้อยละ 2.3 ในปีที่แล้ว เศรษฐกิจศรีลังกาเริ่มฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ด้วยเงินกู้ 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แต่ค่าครองชีพยังคงสูง ประธานาธิบดีดิสสานายาเกต้องการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขบางอย่างของ IMF เพื่อควบคุมภาษีเงินได้ และนำเงินไปลงทุนในสวัสดิการสังคมสำหรับประชาชน แต่นักลงทุนกังวลว่าการทบทวนเงื่อนไขเงินกู้อาจทำให้การเบิกจ่ายในอนาคตล่าช้า เป็นอุปสรรคต่อการบรรลุเป้าหมายงบประมาณเกินดุลที่ร้อยละ 2.3 ของ GDP ในปี 2568 ตามเงื่อนไขของ IMF
นายอรุณา กุลาตุงกา นักวิเคราะห์การเมืองศรีลังกา แสดงความเห็นว่านี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2520 ซึ่งเป็นปีที่ศรีลังกาเปลี่ยนระบบรัฐสภาเป็นระบบสัดส่วน ที่พรรคการเมืองเดียวสามารถชนะการเลือกตั้งได้เสียงข้างมากอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีคนปัจจุบันมีคะแนนเสียงเพียงพอที่จะผ่านกฎหมายในรัฐสภาโดยไม่ต้องพึ่งพาพันธมิตรหรือพันธมิตรในรัฐบาลผสม
…
#การเมืองศรีลังกา
#เศรษฐกิจ