สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ได้พบปะกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ นอกรอบการประชุมซัมมิตของกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก(เอเปค)ในกรุงลิมา เปรูเมื่อวันเสาร์(16 พ.ย.) พร้อมทั้งหารือเรื่องปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ การค้า ไต้หวันและเรื่องรัสเซีย นับเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายระหว่างผู้นำทั้งสองก่อนนายไบเดนพ้นจากตำแหน่งในอีก 2 เดือนข้างหน้า และเป็นการประชุมแบบเจอหน้ากันเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน
นายสีให้คำมั่น จะทำงานกับรัฐบาลของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ซึ่งจะเข้ามาบริหารประเทศต่อจากนายไบเดนในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า เช่น การติดต่อสื่อสารกันอย่างสม่ำเสมอ การขยายความร่วมมือทางค้าและจัดการกับปัญหาต่างๆที่ทั้งสองฝ่ายเห็นต่างกัน โดยนายสี ย้ำว่า เป้าหมายของจีนยังคงไม่เปลี่ยนคือ การรักษาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯให้เดินหน้าไปอย่างมั่นคง แข็งแรงและยั่งยืน หลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ 5 พ.ย.พร้อมยอมรับว่า ที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสอง มีทั้งช่วงเวลาที่ชื่นมื่นและย่ำแย่มาตลอด
ขณะที่นายไบเดนบอกกับนายสีว่า มีหลายๆเรื่องผู้นำทั้งสองมีความเห็นไม่ตรงกัน แต่ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันแบบเปิดอกและตรงไปตรงมา นักวิเคราะห์ระบุว่า รัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนต้องการจะหาทางลดความตึงเครียดกับจีน แต่อีกด้านหนึ่ง สหรัฐฯรู้สึกไม่พอใจประเทศจีนในบางเรื่อง เช่น กรณีแฮกเกอร์จีนโจมตีทางไซเบอร์ล้วงข้อมูลการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ตลอดถึงเจาะระบบสื่อสารของทีมรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อเร็วๆนี้ พร้อมแสดงความไม่พอใจ ที่จีนซ้อมรบรอบเกาะไต้หวัน และไม่พอใจจีนสนับสนุนรัสเซียในเรื่องสงครามยูเครน
ขณะเดียวกัน สหรัฐฯต้องการพึ่งพาความช่วยเหลือจากจีนในบางเรื่อง เช่น อยากให้ประเทศจีนช่วยห้ามปรามเกาหลีเหนือ เพื่อนบ้านของจีน ซึ่งในระยะหลังๆกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซียอย่างแน่นแฟ้น พร้อมทั้งส่งทหารไปช่วยรัสเซียสู้รบกับยูเครน
#ผู้นำจีนพบไบเดน
#เปรู
#เอเปค