ตำรวจเมืองอู๋ซี มณฑลเจียงซู ทางภาคตะวันออกของจีน เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 8 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 17 คน หลังคนร้าย วัย 21 ปีคนหนึ่ง ใช้มีดไล่แทงคนอื่นๆใกล้สถาบันอาชีวะสายศิลปะและเทคโนโลยีแห่งเมืองอู๋ซี เมื่อเย็นวานนี้ เวลา 18.30น.โดยตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกัน รถกู้ภัยได้นำผู้บาดเจ็บไปโรงพยาบาลใกล้เคียง
จากการสอบสวน คนร้ายให้การรับสารภาพกับตำรวจว่า เป็นอดีตศิษย์เก่าของวิทยาลัย ซึ่งตามกำหนดจะจบการศึกษาในปีนี้ แต่ปรากฏว่าเขาสอบตกหลายวิชา ทำให้รู้สึกมีอาการคลุ้มคลั่ง ไม่พอใจคณะอาจารย์ของวิทยาลัย จึงกลับมาก่อเหตุรุนแรงดังกล่าว สำหรับวิทยาลัยมีนักศึกษาราว 12,000 คน จากทั่วโลก เว็บไซต์ของวิทยาลัยระบุเรื่องที่ตั้งของวิทยาลัยว่า อยู่ห่างจากนครเซี่ยงไฮ้ไปทางตะวันตก 150 กิโลเมตร มีหลักสูตรการศึกษาด้านศิลปะ การออกแบบ การทำกระเบื้องเซรามิค แฟชั่น และสาขาอื่นๆ
สำหรับเหตุรุนแรงจากการใช้มีดเป็นอาวุธเกิดขึ้นบ่อยในประเทศจีน เนื่องจากมีกฎระเบียบที่เข้มงวดห้ามประชาชนทั่วไปซื้อปืนไว้ครอบครอง แต่การใช้มีดเป็นอาวุธไล่แทงคนเสียชีวิตครั้งละหลายราย เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
ก่อนหน้านี้ ชายวัย 62 ปีคนหนึ่ง ซึ่งมีนามสกุล ฟ่าน ขับรถ SUV ชนผู้คนที่ศูนย์กีฬาเมืองจู่ไฮ่ มณฑลกวางตุ้ง ทางภาคใต้ของจีนเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 11 พ.ย.เวลา 19.48น.ซึ่งจากการสอบสวน ตำรวจพบเหตุจูงใจคือ นายฟ่าน รู้สึกไม่พอใจเกี่ยวกับการแบ่งทรัพย์สิน หลังการหย่าร้าง โกรธแค้นภรรยาเก่า จึงก่อเหตุรุนแรงในลักษณะแก้แค้นสังคม ขณะเดียวกัน ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจีน เริ่มพูดคุยประเด็นเรื่องแก้แค้นสังคม เช่น ทำร้ายคนที่ไม่รู้จักมาก่อน เนื่องจากปัญหาส่วนตัว
นอกจากนี้ หน่วยงานกำกับดูแลสื่อและอินเตอร์เน็ตของจีน จะควบคุมการใช้สื่ออย่างเข้มงวด ไม่ให้มีการเผยแพร่ภาพเหตุรุนแรงทางสื่อออนไลน์ของจีน
#จีน
#เหตุรุนแรง