หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Typhoon Man-Yi) ขึ้นฝั่งบริเวณชายฝั่งของเมืองคาตันดัวเนส ทางภาคตะวันออกของฟิลิปปินส์เมื่อคืนนี้ เวลา 21.40น. ด้วยความเร็วลม 195 กิโลเมตร/ชั่วโมง เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารบรรยากาศ ธรณีฟิสิกส์ และดาราศาสตร์แห่งฟิลิปปินส์ (PAGASA) หน่วยงานพยากรณ์อากาศของฟิลิปปินส์ รายงานเมื่อเวลา 11.00.ของวันนี้(17 พ.ย.)ว่า พายุเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่ตอนกลางของเกาะลูซอน เกาะหลักทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์ด้วยความเร็วลมที่ 185 กิโลเมตร/ชั่วโมง อ่อนตัวลงจากเดิมเล็กน้อย มีลมแรงและฝนตกหนักทั่วทั้งกรุงมะนิลา และเขตปริมณฑล บางแห่งจะมีปริมาณฝน 100-200 มม.ในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า ขณะเดียวกัน ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น ทำให้ไฟฟ้าดับ หลังคาบ้านของบ้านเรือนหลายแห่งที่มุงด้วยสังกะสีปลิวตามแรงลม
PAGASA คาดว่า พายุจะเคลื่อนตัวมุ่งหน้าทางตะวันตกและจะพ้นจากดินแดนของฟิลิปปินส์ มุ่งหน้ายังเวียดนาม ประมาณช่วง เช้าถึงเที่ยงของวันพรุ่งนี้(18 พ.ย.)ด้วยความเร็ว 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง ก่อนหน้านี้ มีการอพยพชาวบ้านกว่าหนึ่งล้านคนไปยังพื้นที่ปลอดภัย ด้านนายอาเรียล เนโปมูเซโน หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันภัยพลเรือนของฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นไม่มีรายงานเรื่องการเสียชีวิต แต่ความแรงของลมทำให้บ้านเรือน โรงเรียนและอาคารพาณิชย์หลายหลังในเมืองคาตันดัวเนสได้รับความเสียหาย
นางอมาเลีย ซานติซัส ชาวบ้านในแถบชายฝั่งของกรุงมะนิลา ซึ่งทำตามคำสั่งของหน่วยงานท้องถิ่นเรื่องการอพยพจากพื้นที่เสี่ยงเปิดเผยว่า พวกเราอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยทุกครั้งที่มีการแจ้งเตือนเรื่องพายุไต้ฝุ่น เนื่องจากระดับน้ำของแม่น้ำส่วนใหญ่ในกรุงมะนิลาจะท่วมสูงทุกครั้งที่เกิดพายุ เธอและครอบครัวเป็นหนึ่งในชาวบ้านกว่าหนึ่งล้านคนที่ได้รับคำสั่งให้อพยพ เพื่อความปลอดภัย เนื่องจาก อยู่ในเส้นทางของพายุและเสี่ยงอันตรายจากคลื่นทะเลซัดเข้าสู่ชายฝั่ง นับเป็นพายุลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในรอบ 1 เดือน มีผู้เสียชีวิตรวม 163 คน ขณะเดียวกัน ชาวบ้านหลายหมื่นคนไร้ที่อยู่อาศัย สร้างความเสียหายแก่พื้นที่การเกษตร และปศุสัตว์
ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทั่วโลกจะทำให้เกิดพายุบ่อยกว่าเดิม มีปริมาณฝนมากกว่าเดิม ทั้งเสี่ยงเกิดน้ำท่วมเสียหายหนักกว่าเดิม
#ฟิลิปปินส์
#พายุหม่านหยี่