คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสรารัตน์ หรือ แอม ไซยาไนด์, พ.ต.ท.วิฑูรย์ อดีตสามี และอดีตรอง ผกก.สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี และ น.ส.ธันย์นิชา หรือ ทนายพัช ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-3
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา เปิดเผยว่า ในวันนี้(20 พ.ย.67) ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาในคดีดังกล่าว ซึ่งในส่วนนี้ต้องรอดูว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
จากคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ที่กลายเป็นคดีโด่งดัง ในประเทศไทย เมื่อปี 66 โดยใช้ไซยาไนด์ในการสังหาร ซึ่งมีผู้ถูกกล่าวหาคือ นางสรารัตน์ หรือ แอม คดีนี้ผ่านมาร่วม 1 ปี 7 เดือน ศาลได้นัดสืบพยานฝ่ายจำเลย ในคดีดังกล่าวกว่า 89 ปาก ตั้งแต่เดือนก.ค.67
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 66 แอม ไซยาไนด์ จำเลยที่ 1 มีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ น.ส.ศิริพร หรือก้อย อายุ 32 ปี ด้วยการวางแผนใช้กำลังประทุษร้ายต่อชีวิต น.ส.ศิริพร โดยนำสารโพแทสเซียมไซยาไนด์ (Potassium Cyanide) อันเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ซึ่งเป็นสารพิษที่เมื่อบุคคลเสพรับสารดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายแล้ว ร่างกายจะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เลือดมีภาวะความเป็นกรดสูง เกิดภาวะขาดพลังงานและออกซิเจน ส่งผลให้สมองและหัวใจขาดพลังงานและออกซิเจน อันเป็นอันตรายต่อร่างกายและชีวิตของผู้เสพรับสารดังกล่าวเข้าสู่ร่างกาย ทำการปลอมปนใส่ลงในอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภคบริโภค ชนิดใดและปริมาณเท่าใดไม่ปรากฏชัดให้ น.ส.ศิริพร ดื่ม หรือรับประทาน หรือเสพรับสารดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายด้วยวิธีใดไม่ปรากฏชัด แต่เป็นปริมาณที่มากพอที่ทำให้สารโพแทสเซียมไซยาไนด์ดังกล่าวเข้าสู่ร่างกาย น.ส.ศิริพร จนหมดสติและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
วันนี้ พ.ต.ท.วิฑูรย์ อดีตสามี และ น.ส.ธันย์นิชา ที่ได้รับการประกันตัวต้องเดินทางมาศาลตามนัดด้วย ส่วน แอม ไซยาไนด์ ถูกเบิกตัวจากทัณฑสถานหญิงกลาง
ทั้ง 3 คน มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น, ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ปลอมปนอาหาร ยาหรือเครื่องอุปโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้และการปลอมปนนั้นเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย, เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด, เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด
#แอมไซยาไนด์
แฟ้มภาพ