บริษัทกูเกิล (Google) แสดงความไม่พอใจต่อรายงานที่ว่า ฝ่ายป้องกันการผูกขาด กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) จะเสนอมาตรการบังคับให้อัลฟาเบต (Alphabet) บริษัทแม่ของกูเกิลต้องขายโครม บราวเซอร์ (Chrome Browser) ต่อผู้พิพากษาในวันนี้ (20 พ.ย.67) พร้อมให้กำหนดมาตรการใหม่เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) และการใช้งานข้อมูล
เมื่อเดือนสิงหาคม ผู้พิพากษามีคำตัดสินว่ากูเกิลดำเนินการผูกขาดการค้นหาออนไลน์และกำลังพิจารณาว่าจะใช้มาตรการแก้ไขหรือบทลงโทษใด
โครมเป็นบราว์เซอร์ที่ใช้มากที่สุดในโลก ในเดือนตุลาคม มีส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกอยู่ที่ร้อยละ 64.61 ส่วนการค้นหาของกูเกิลมีส่วนแบ่งตลาดเกือบร้อยละ 90 นางลี-แอน มัลโฮลแลนด์ กรรมการบริหารของกูเกิล ระบุในแถลงการณ์ว่า กระทรวงยุติธรรมยังคงผลักดันบทลงโทษที่ก้าวไปไกลกว่าประเด็นทางกฎหมาย เป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต ที่ส่งผลเสียต่อผู้บริโภค ผู้พัฒนา และความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของอเมริกาในช่วงเวลาที่จำเป็นที่สุด
นอกจากนี้ การให้แยกส่วนของธุรกิจ ก็คือการทำลายธุรกิจเหล่านั้น เพราะคือการเพิ่มต้นทุนของอุปกรณ์ เป็นการทำลายแอนดรอยด์และกูเกิลเพลย์ (Google Play) ในช่วงเวลาที่มีการแข่งขันที่แข็งแกร่งกับไอโฟน (iPhone) และแอป สโตร์ (App Store) ของแอปเปิล (Apple) ทั้งทำให้การรักษาความปลอดภัยโครมบราวเซอร์ ทำได้ยากขึ้นอีกด้วย
#Google