'ไซโคลนบอมบ์'ถล่มตะวันตกเฉียงเหนือสหรัฐฯต่อเนื่องแคนาดา ฝนตก-ลมแรง-หิมะตกหนัก

           พื้นที่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ครอบคลุมถึงฝั่งตะวันตกของแคนาดาเผชิญกับพายุฝนตกหนัก ที่เรียกว่า พายุไซโคลนบอมบ์ ทำให้มีลมแรง น้ำท่วม และหิมะตก ส่งผลกระทบประชาชนมากกว่า 7 ล้านคน โดยมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงจากซีแอตเทิล กระแสลมแรงยังทำให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง กับมีต้นไม่หักโค่นหลายพื้นที่

         "พายุไซโคลนบอมบ์" เกิดจากความกดอากาศนอกชายฝั่งที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สภาพอากาศรุนแรงขึ้น คาดว่า จะทำให้มีทั้งลม ฝน และหิมะตลอดสัปดาห์ ผลกระทบของพายุปรากฏชัดเจนตั้งแต่ในช่วงเช้าของวันพุธ (20 พ.ย.67) ตามเวลาท้องถิ่น ต้นไม้หักโค่นสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนและปิดกั้นถนนในรัฐวอชิงตัน

        บริษัทผู้ให้บริการไฟฟ้า แจ้งว่า ไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่บ้านเรือนมาก 600,000 หลังในวอชิงตัน และอีก 15,000 รายในแคลิฟอร์เนีย ทำให้โรงเรียนหลายแห่งต้องปิดทำการชั่วคราว

        สำนักงานดับเพลิงเบลล์วิว ในวอชิงตัน โพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดีย เตือนว่า อากาศข้างนอกรุนแรงมาก ต้นไม้ล้มทั้งเมือง และหลายต้นล้มทับบ้าน แนะนำให้อยู่ในบ้านและอย่าเข้าใกล้หน้าต่าง อย่าออกไปข้างนอกหากไม่มีความจำเป็น

        ศูนย์พยากรณ์อากาศแห่งสหรัฐอเมริกา (WPC) รายงานว่าทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและโคลนถล่ม โดยเฉพาะบริเวณอ่าวซานฟรานซิสโก

        พายุลูกนี้ยังพัดขึ้นไปจนถึงแคนาดา โดยมีกระแสลมแรงถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกชายฝั่งเกาะแวนคูเวอร์ ผู้ใช้ไฟราว 140,000 รายในบริติชโคลัมเบียไม่มีไฟฟ้าใช้ คาดว่าจะมีฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดวันนี้(21 พ.ย.67)และวันพรุ่งนี้(22 พ.ย.67)ตามแนวชายฝั่ง เนื่องจาก ความชื้นจากมหาสมุทรแปซิฟิก พัดเข้าสู่ชายฝั่งอีกครั้ง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน หินถล่ม และพายุหิมะในเทือกเขาคาสเคด ซึ่งทอดยาวไปทั่วทั้งสหรัฐฯและแคนาดา แต่เมื่ออากาศอุ่นขึ้นอย่างฉันพลันทำให้หิมะละลาย จะทำให้เกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่ตั้งแต่แคลิฟอร์เนียตอนเหนือไปจนถึงโอเรกอน ในช่วงสุดสัปดาห์นี้

#พายุไซโคลนบอมบ์

#สหรัฐ

#แคนาดา