สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานอ้างสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของไอซ์แลนด์ว่า เกิดเหตุภูเขาไฟบนคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes Peninsula) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ปะทุอีกครั้งเมื่อคืนนี้(20 พ.ย.67)เวลา 23.14น.ตามเวลาท้องถิ่น หลังปะทุครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 6 ก.ย.67 และเป็นการปะทุครั้งที่ 10 ในรอบ 3 ปี โดยมีเถ้าถ่าน และลาวา พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า แต่ปริมาณฝุ่นควันจากภูเขาไฟซึ่งลอยขึ้นสู่ท้องฟ้ายังไม่หนาแน่นมาก จึงไม่กระทบโดยตรงต่อชาวบ้านในกรุงเรคยาวิก ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากคาบสมุทรเรคยาเนสไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 30 กิโลเมตร รวมถึงไม่กระทบการจราจรทางอากาศของไอซ์แลนด์
ส่วนที่เมืองกรินดาวิก เมืองชาวประมง ซึ่งอยู่ใกล้เคียงและมีประชากร อาศัยอยู่ราว 4,000 คน ก่อนมีคำสั่งให้อพยพครั้งก่อนคือ เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังคงอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่ ชาวบ้านส่วนน้อยที่กลับมาอาศัยอยู่ในบ้านเรือน เนื่องจาก มีการแจ้งเตือนภัยเป็นระยะๆเรื่อยมาว่า มีโอกาสเสี่ยงเกิดเหตุภูเขาไฟปะทุขึ้นตลอดเวลา
ขณะเดียวกัน ทางการไอซ์แลนด์ ได้สร้างคันกั้น เพื่อป้องกันลาวาจากภูเขาไฟไม่ให้ไหลเข้ามาที่ตัวเมือง และสร้างคันกั้นระบบสาธารณูปโภค เช่น โรงไฟฟ้าในพื้นที่ใกล้เคียง และบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติ บลูลากูน และโรงแรมที่อยู่ใกล้เคียง ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ เตือนว่า ภูเขาไฟบนคาบสมุทรเรคยาเนส อาจจะเกิดการปะทุเป็นระยะๆต่อเนื่องอีกหลายสิบปี หรืออาจจะปะทุในลักษณะเช่นนี้ต่อเนื่องไปอีกหลายร้อยปี
ก่อนหน้านี้ ภูเขาไฟ เอย์ยาฟิยัตลาเยอคึตซ์ (Eyjafjallajökull)ทางภาคใต้ของไอซ์แลนด์ ปะทุเมื่อปี 2553 ทำให้เถ้าถ่านของภูเขาไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทั่วทั้งทวีปยุโรป กระทบเที่ยวบินราว 100,000 เที่ยวทั่วโลก ทั้งนี้ ไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ในจุดที่รอยเลื่อนของเปลือกโลก 2 แผ่นคือ ยูเรเซียนและนอร์ทอเมริกัน บรรจบกันเป็นจุดมีการเคลื่อนไหวทางธรณีวิทยา เช่น น้ำพุร้อนจากใต้ดิน และการปะทุของภูเขาไฟอยู่เป็นประจำ
#ไอซ์แลนด์
#ภูเขาไฟปะทุ